เปิดผลประกอบการปี63 ของ บมจ.บ้านปู ขาดทุนเพิ่มเป็น1,786 ล้านบาทจากปี 2562 ที่มีผลขาดทุนที่ 395 ล้านบาทจากราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่ปรับลดลง โดยในแผนธุรกิจ 5 ปี (2564-2568) ตั้งเป้าภายในปี 2568 จะมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่ายหรือ EBITDA จากธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงาน เป็น 50% เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
โดยผลประกอบการในปี 2563 ของ บมจ.บ้านปู ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีผลขาดทุนในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ จำนวน1,786 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีผลขาดทุน 395 ล้านบาทจากราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง
ปี2563 บ้านปูฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 2,283 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 68,575 ล้านบาท) ลดลงจากปีก่อน 476 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 14,298 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 17
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2564 นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้กำหนดแผนธุรกิจ 5 ปี ฉบับใหม่ สำหรับปี 2564 – 2568 ที่จะเร่งสร้างการเติบโตตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ใน 4 ธุรกิจหลัก คือธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจเหมือง ธุรกิจผลิตไฟฟ้า และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ที่จะช่วยเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พอร์ตพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานที่สอดคล้องกับเทรนด์พลังงานในอนาคต
โดยตั้งเป้าว่า ภายในปี 2568 EBITDA จากธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานของบ้านปู จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นให้ได้ถึง 50 %
สำหรับปี 2564 บ้านปูฯ เตรียมงบลงทุนไว้ 156 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 110 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในโครงการที่เวียดนาม 2 แห่ง ซึ่งจะผลิตไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ปี 2564 นี้ และอีก 46 ล้านเหรียญสหรัฐฯจะลงทุนใน Energy Technology Platform ของ บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด