บี.กริม เพาเวอร์ โชว์กำไรสุทธิจากการดำเนินงานไตรมาส 3/67 เติบโต 32.5%

88
- Advertisment-

บี.กริม เพาเวอร์ โชว์กำไรสุทธิจากการดำเนินงานไตรมาส 3/67 เติบโต 32.5% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ กฟผ. และลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น

ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด   (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 เติบโตแข็งแกร่ง มี EBITDA อยู่ที่ 4,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% ด้วยปริมาณขายไฟฟ้าเติบโต 7.5% มาอยู่ที่ 3,908 กิกะวัตต์-ชั่วโมง เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจาก

 1. ปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ กฟผ. เพิ่มขึ้น 12.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าอุตสาหกรรม (SPP) 2 โครงการ ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2566 รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 280 เมกะวัตต์ 

- Advertisment -

และ 2. ปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม (IUs) ในประเทศเวียดนาม รวมทั้งปริมาณขายไอน้ำในประเทศไทยที่เติบโตขึ้น 41.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการขยายกำลังการผลิตของลูกค้าเดิม และความต้องการที่เพิ่มขึ้น  

สำหรับกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (NNP) – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 808 ล้านบาท เติบโต 32.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยหลักที่กล่าวไปข้างต้น รายได้จากการให้บริการที่สูงขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมทุนและการร่วมค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ กำไรสุทธิ – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ซึ่งเป็นกำไรที่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง และเป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด จะอยู่ที่ 163 ล้านบาท  

ความสำเร็จตลอดช่วง 9 เดือนของปี 2567 บี.กริม เพาเวอร์ มีการเชื่อมเข้าระบบของลูกค้า IUs รายใหม่ในประเทศไทยจำนวน 11.2 เมกะวัตต์ และจะมีการเชื่อมเข้าระบบของลูกค้า IUs รายใหม่เพิ่มในไตรมาสที่ 4 ด้วยโครงการที่มีในปัจจุบันนับเป็นรากฐานที่ดีที่จะช่วยให้ บี.กริม เพาเวอร์ เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต 

ในไตรมาส 3 ปีนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ประสบความสำเร็จในการนำเข้า LNG ลำเรือแรก จำนวน 65,000 ตัน และลำเรือที่สองในเดือนตุลาคม 2567 เพื่อนำเข้าสู่ระบบ Pool Gas โดยในช่วงเริ่มต้น ก๊าซที่นำเข้าจะส่งผ่านไปยังระบบ Pool Gas เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมของบริษัททั้งสิ้น 10 โครงการ นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Lohas ECE Spain Gifu Co., Ltd. ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตติดตั้ง 20 เมกะวัตต์ และมีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ระยะเวลา 25 ปี ของบริษัทย่อยและการร่วมค้าจำนวน 8 บริษัท เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดโครงการรวม 323.3 เมกะวัตต์ มีกำหนดเปิด COD ตั้งแต่ปี 2569 ถึง 2573 

ขณะที่ในไตรมาส 4 ปี 2567 เตรียมเปิด COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 2 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อู่ตะเภา เฟสหนึ่ง และ 2) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมแบบติดตั้งบนบก KOPOS ในสาธารณรัฐเกาหลี  

ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า เป้าหมายระยะยาวของ บี.กริม เพาเวอร์ คือการเพิ่มกำลังผลิตสู่ 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 พร้อมตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลกและบรรลุเป้าหมายการก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) ภายในปี 2593 

Advertisment