บี.กริม เพาเวอร์ ประกาศยุทธศาสตร์ระยะยาว “GreenLeap – Global and Green” ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อมุ่งสู่ตลาดพลังงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั่วโลก ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป โดยตั้งเป้า 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2030 และเดินหน้าสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593)
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงานพบปะสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 24 ม.ค.2566 ว่า บี.กริม เพาเวอร์ พร้อมเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ GreenLeap ควบคู่ไปกับจุดแข็ง 5 ประการ ได้แก่
1.ความสามารถในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ
2. การเป็นพันธมิตรที่ดีและได้รับความไว้วางใจ
3. ความสามารถในการพัฒนาและบริหารโครงการ
4. การจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อรองรับการเติบโตด้วยต้นทุนที่ เหมาะสม
5. ความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ทั้งนี้ บี.กริม มีเป้าหมายในการเพิ่มกำลังการผลิตจาก 3,379 เมกะวัตต์ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 เป็น 4,700 เมกะวัตต์ ในปี พ.ศ.2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 เมกะวัตต์ ในปี ค.ศ.2030 (พ.ศ.2573)
โดยภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ GreenLeap บี.กริม เพาเวอร์ ยังมองหาการยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจระดับโลกกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขยายธุรกิจสู่การจัดหาวัตถุดิบ (Upstream value chain) เพื่อให้แน่ใจว่ามีการจัดหาเชื้อเพลิงและผลักดันเทคโนโลยีของเชื้อเพลิงสังเคราะห์
“เรามุ่งมั่นที่จะมีบทบาทเป็นผู้นำในภาคพลังงานที่เราให้บริการทั้งในปัจจุบันและอนาคต และมั่นใจว่ายุทธศาสตร์ GreenLeap เป็นกุญแจสำคัญสำหรับความสำเร็จในระยะยาว”
สำหรับยุทธศาสตร์ GreenLeap – Global and Green ประกอบด้วยแผนเชิงกลยุทธ์ 3 ประการ คือ
1. Industrial Solutions: มีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดหาพลังงานให้กับภาคอุตสาหกรรมภายใต้อัตราค่าไฟฟ้าที่หลากหลาย โดย บี.กริม เพาเวอร์ จะใช้โครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม แบตเตอรี่ รวมถึงการเตรียมพร้อมในการรองรับยานยนต์ไฟฟ้า และเครื่องมือดิจิทัลขั้นสูง เช่น ระบบที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทางเลือกที่สะอาดที่กระจายอยู่ทั่วไป (distributed energy source) เพื่อรักษาความสมดุลของโครงข่ายไฟฟ้า บี.กริม เพาเวอร์ รวมถึงสนับสนุนลูกค้าด้านการชดเชยคาร์บอนและการเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน
2. Independent Power Producer: มีจุดมุ่งหมายเพื่อขยายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของ บี.กริม เพาเวอร์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเตรียมพร้อมพอร์ตในประเทศสู่การลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
• Flexible Power: มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของพอร์ตโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม การบริหารจัดการระบบสำรองไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม เพื่อสร้างสมดุลในการรองรับการเพิ่มขึ้นของพลังงานหมุนเวียน และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตเมื่อโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจะมีบทบาทสำคัญในการปรับสมดุลของโครงข่ายไฟฟ้า รวมถึงการใช้เชื้อเพลิงทางเลือก และการพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานระยะกลางและระยะยาวต่อไป ทั้งนี้ กุญแจสำคัญ คือ ความเชี่ยวชาญของ บี.กริม เพาเวอร์ ในการดำเนินงานและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี
• Renewable Power: เป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลกและโอกาสที่ยิ่งใหญ่ บี.กริม เพาเวอร์ จะใช้ประสบการณ์ในการดำเนินโครงการพลังงานหมุนเวียนทั้งในไทยและต่างประเทศ ความร่วมมือระดับโลกกับพันธมิตร พันธสัญญาต่อชุมชนและสังคม และพัฒนาเครื่องมือซอฟต์แวร์ขั้นสูงที่จะเป็นกรรมสิทธิ์ของเรา (Proprietary Software) สำหรับบริหารจัดการโครงการพลังงานหมุนเวียน
ทั้งนี้ บี.กริม เพาเวอร์ มุ่งเน้นพื้นที่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและ/หรือเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของระบบเศรษฐกิจทั้งในภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงและยกระดับการลงทุน
- Sustainable Fuels: ยุทธศาสตร์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่าการจัดหาก๊าซผ่านสัญญาการจัดหาระยะยาวโดยใช้ใบอนุญาตผู้จัดหาและค้าส่งของ บี.กริม แอลเอ็นจี โดยจะเสริมสร้างความเชี่ยวชาญด้านเชื้อเพลิงสังเคราะห์สำหรับอุตสาหกรรมและเคมีภัณฑ์ รวมถึงเชื้อเพลิงสังเคราะห์สำหรับภาคส่วนที่ยากต่อการลดทอน เช่น การบินและการเดินเรือ
ยุทธศาสตร์ GreenLeap ตั้งเป้าหมาย EBITDA ประจำปีที่มากกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท โดยมีอัตรากำไร EBITDA ที่ 35% ภายในปี 2573 โดยยังคงรักษาโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ เรายึดมั่นในหลัก ธรรมาภิบาล ความยั่งยืน และการจัดการห่วงโซ่คุณค่าอย่างรับผิดชอบ โดยคำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
“เป้าหมายของ บี.กริม เพาเวอร์ คือการบรรลุอัตราการเติบโตของ EBITDA ต่อปีแบบทบต้นในระดับ 10% ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามแนวทางควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศา ของประเทศในกลุ่ม Non-OECD (2C Non-OECD) ที่กำหนดโดย International Energy Agency (IEA) ด้วยสัดส่วนโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่สูงกว่า 50% ภายในปี 2573 และเรามีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความรับผิดชอบและการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวทิ้งท้าย