ตั้ง “มนูญ ศิริวรรณ” รักษาการประธานเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)คาดหวังให้เกิดการสานต่อความรู้เชื้อเพลิงพลังงานทดแทนโดยเฉพาะจากขยะ และพลังงานแสงอาทิตย์สู่สังคมวงกว้างมากขึ้น
นายกิตติพงษ์ ภิญโญตระกูล รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า “โครงการสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า” เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อกิจการตามมาตรา 97(5) ประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 9.5 ล้านบาท เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและให้ข้อมูลที่ถูกต้องด้านพลังงานหมุนเวียนต่อสื่อมวลชน เนื่องจากสื่อเป็นกลุ่มคนที่มีพลังในการเผยแพร่ข้อเท็จจริงสู่ประชาชนได้ในวงกว้าง และจะช่วยให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงและข้อมูลสำหรับตัดสินใจด้านพลังงานในอนาคตได้ด้วยตัวเอง
สำหรับโครงการนี้จะสิ้นสุดในเดือน ก.ย.2563 แต่เพื่อให้กิจกรรมเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านพลังงานไฟฟ้ายังเดินหน้าต่อไป จึงได้จัดตั้งเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้าขึ้น โดยคัดเลือกสื่อมวลชนจากทุกประเภทสื่อ รวม 30 คนมาเป็นเครือข่าย และได้ตั้งนายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เป็นรักษาการประธานเครือข่ายฯ ในช่วงแรก ก่อนจะคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมมารับหน้าที่ต่อไป
ด้านนายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญพลังงานกล่าวว่า เครือข่ายสื่อมวลชนที่จัดตั้งขึ้น จะเข้ามามีบทบาทในการให้ข้อมูลด้านพลังงานทางเลือกที่ถูกต้องแก่ชุมชน และเป็นตัวเชื่อมที่จะทำให้ชุมชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับนโยบายต่าง ๆ ของภาครัฐได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้คนในชุมชนสามารถที่จะร่วมกันผลักดันให้เกิดโครงการต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนของตัวเองได้ในอนาคต
นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ เอ็กซ์ โซลูชั่นส์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารโครงการสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนไทยใส่ใจทางเลือกใหม่พลังงานไฟฟ้า กล่าวว่า เครือข่ายสื่อมวลชนที่เกิดขึ้นนี้ จะเป็นต้นแบบผู้นำการเปลี่ยนแปลงในการรณรงค์และสื่อสารความเข้าใจด้านพลังงานที่ถูกต้องสู่สาธารณะ โดยมีเป้าหมายให้ภาคประชาชนหรือสาธารณชนได้เข้าใจถึงความจำเป็นของการมีพลังงานทางเลือกอื่น ๆ เพื่อเอามาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์และเชื้อเพลิงขยะ และวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เครือข่ายฯ จะมีการกำหนดแนวทางในการดำเนินกิจกรรมร่วมกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลและเติมองค์ความรู้ที่จำเป็นและสอดคล้องกับสถานการณ์พลังงานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อไป