ชำแหละโครงสร้างราคาน้ำมัน ให้รู้ไว้ว่ารัฐปล่อยคนใช้เบนซินและแก๊สโซฮอล์แบกภาระแทนคนใช้ดีเซล
มติของคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา ที่ปรับเพิ่มอัตราชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอีก 50 สตางค์ต่อลิตรจากที่ชดเชยอยู่ก่อนหน้าที่ 29.99 บาทต่อลิตร เป็น 2.49 บาทต่อลิตร นั้น ยิ่งทำให้คนใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้คนใช้ดีเซลได้ใช้น้ำมันในราคาไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร
คนใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินนั้นมีทั้งรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล เครื่องจักรกลการเกษตรหลายๆประเภท ในขณะที่กลุ่มคนใช้น้ำมันดีเซล ที่รัฐโดยกระทรวงพลังงานดูแลเป็นพิเศษด้วยเหตุผลข้ออ้างว่าเป็นน้ำมันที่มีผลกระทบต่อต้นทุนทางเศรษฐกิจนั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรถปิกอัพและรถบรรทุกขนส่ง
ไปชำแหละดูโครงสร้างราคาน้ำมัน ณ วันที่ 18 ม.ค. 2565 ที่ทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. เผยแพร่ทางเว็บไซต์ www.eppo.go.th จะพบว่า ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน ยกตัวอย่างเช่น แก๊สโซฮอลล์ 95 ที่ใช้กันมากนั้น มีราคาเนื้อน้ำมันที่หน้าโรงกลั่นก่อนบวกภาษี อัตรานำส่งกองทุนน้ำมัน กองทุนอนุรักษ์พลังงาน ค่าการตลาด อยู่ที่ 21.15 บาทต่อลิตร ซึ่งถูกกว่า ดีเซลB7 ที่มีราคา 23.47 บาทต่อลิตร หรือถูกกว่า 2.32 บาทต่อลิตร แต่ด้วยนโยบายของกระทรวงพลังงานที่อุ้มราคาดีเซลไม่ให้เกินเพดาน 30 บาทต่อลิตร แต่ปล่อยราคากลุ่มเบนซิน ทำให้ราคาขายปลีกที่หน้าปั๊มของ แก๊สโซฮอลล์ 95 อยู่ที่ 32.65 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลB7 อยู่ที่ 29.84 บาทต่อลิตร กลายเป็นว่าแพงกว่าถึง 2.81 บาทต่อลิตร
ต้นทุนสำคัญที่บวกเพิ่มเข้าไปในราคาแก๊สโซฮอลล์ 95 คือ อัตรานำส่งกองทุนน้ำมัน ในอัตรา 0.62 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลB7นอกจากจะไม่เก็บแล้ว กองทุนน้ำมันยังต้องเข้าไปชดเชยอีก 2.49 บาทต่อลิตร
อีกปัจจัยคือค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมัน ที่คิดค่าการตลาดของดีเซลB7 เพียง 0.30 บาทต่อลิตร แต่คิดค่าการตลาดของแก๊สโซฮอล์ 95 ที่ 2.30 บาทต่อลิตร
ที่ได้เปรียบอยู่เล็กน้อยคืออัตราเก็บภาษีสรรพสามิตของแก๊สโซฮอล์ 95 นั้นมีอัตราภาษีอยู่ที่ 5.85 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลB7นั้นอยู่ที่ 5.99 บาทต่อลิตร
การที่กระทรวงพลังงานต้องเข้าไปอุ้มราคาดีเซลอยู่โดยตลอด ไม่ให้ราคาทะลุเกินเพดาน 30 บาทต่อลิตร ในขณะที่ปล่อยราคาแก๊สโซฮอลล์ 95 ทั้งๆที่รู้ดีว่าเป็นการบิดเบือนพฤติกรรมการใช้ อาจจะเป็นเพราะว่า เมื่อไหร่ที่ปล่อยให้ราคาดีเซลทะลุเพดานนั้น จะมีแรงกระเพื่อมทางการเมืองจากฝ่ายค้าน มีม็อบกลุ่มรถบรรทุกขนส่งที่เป็นผู้ใช้รายใหญ่ และสินค้าต่างๆที่จ้องปรับขึ้นราคา ส่วนการปล่อยให้แก๊สโซฮอล์ 95 ปรับขึ้นได้อย่างเต็มที่ เพราะแรงกระเพื่อมน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย
ดังนั้นผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน จึงควรรู้ไว้ว่า นโยบายการอุ้มราคาดีเซล และการอุ้มราคาก๊าซหุงต้มที่คิดเป็นเงินสะสมอยู่ประมาณ 24,000 ล้านบาท จนทำให้กองทุนน้ำมันติดลบหนักกว่า 8, 000 ล้านบาทและต้องมีการกู้เพื่อเติมสภาพคล่องอีกกว่า 30,000 ล้านบาท โดยจะต้องมีการคิดอัตราดอกเบี้ยนั้น จะเป็นภาระที่ผู้ใช้กลุ่มเบนซินจะต้องควักจ่ายทั้งสิ้น หากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมัน
กองบรรณาธิการศูนย์ข่าวพลังงาน รายงาน