กบน.เร่งลดราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ให้ทัน 20 ก.ย. 2566 หลัง ครม.ลดภาษีดีเซล 2.50 บาทต่อลิตร

562
- Advertisment-

คณะรัฐมนนตรี (ครม.) มีมติลดภาษีดีเซล 2.50 บาทต่อลิตร ด้านคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เตรียมเปิดประชุมนำภาษีที่ได้ลด 2.50 บาทต่อลิตร ไปใช้ผ่านกลไกกองทุนน้ำมันฯ ลดราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร ให้ทันวันที่ 20 ก.ย. 2566 ตามมติ ครม. ชี้ปัจจุบันกองทุนฯ ต้องนำเงินไปชดเชยราคาดีเซลเกือบ 7 บาทต่อลิตร และสถานะกองทุนฯ ยังติดลบเกือบ 6 หมื่นล้านบาท การลดภาษีครั้งนี้เพียงเล็กน้อย ไม่ได้ช่วยลดภาระกองทุนฯ ได้เท่าที่ควร  

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 13 ก.ย. 2566 ให้ลดภาษีน้ำมันดีเซลลง 2.50 บาทต่อลิตร จากเดิมเรียกเก็บภาษีอยู่ 5.99 บาทต่อลิตร เพื่อให้กรอบราคาดีเซลขายปลีกไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันที่จำหน่ายอยู่ 31.94 บาทต่อลิตร โดยมีผลตั้งแต่ 20 ก.ย. ถึงสิ้นปี 2566 นี้

ทั้งนี้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) จะต้องเตรียมประชุมเพื่อดำเนินการลดราคาน้ำมันดีเซลให้เหลือ 30 บาทต่อลิตร โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาจัดการ แต่ยอมรับว่าการลดภาษีดีเซลในครั้งนี้ ลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งที่ผ่านมาเคยลดถึง 3-5 บาทต่อลิตร แต่ครั้งนี้ลดเพียง 2.50 บาทต่อลิตร ซึ่งช่วยลดภาระกองทุนฯ ได้ไม่มากนัก

- Advertisment -

อย่างไรก็ตามปัจจุบันกองทุนฯ ได้นำเงินไปช่วยชดเชยราคาดีเซลอยู่ 6.97 บาทต่อลิตร เพื่อพยุงราคาไว้ที่ 31.94 บาทต่อลิตร หากไม่พยุงราคาไว้จะส่งผลให้ดีเซลปรับขึ้นไปกว่า 38 บาทต่อลิตร ดังนั้นเมื่อมีการลดภาษีดีเซลลง 2.50 บาทต่อลิตร ก็จะนำไปลดราคาดีเซลได้ 2 บาทต่อลิตร ทำให้ราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร และอีก 50 สตางค์ต่อลิตร ก็จะนำมาช่วยกองทุนฯ ลดภาระการชดเชยราคาดีเซลที่ชดเชยอยู่ถึง 6.97 บาทต่อลิตร ซึ่งถือว่าช่วยลดภาระกองทุนฯ ได้ไม่มากนัก แต่ช่วยลดราคาน้ำมันดีเซลหน้าปั๊มลงได้

ทั้งนี้ ครม.มีมติให้ลดราคาดีเซลภายในวันที่ 20 ก.ย. 2566 นี้ ซึ่งมั่นใจว่า กบน.จะพิจารณาลดราคาดีเซลได้ตามกรอบเวลาดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้ยังมีเวลาเพียงพอที่จะพิจารณาดำเนินการได้

ส่วนสถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุดที่รายงานโดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ณ วันที่ 10 ก.ย. 2566 พบว่ากองทุนฯ ยังประสบปัญหาการเงินติดลบที่ 59,086 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบ 14,311 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม(LPG) ติดลบ 44,774 ล้านบาท     

Advertisment