คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มี.ค.64 มีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต่ออายุเงินกู้ระยะสั้น แบบ Credit Line ในวงเงินปีละ 10,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2564 ภายใต้เงื่อนไขเดิม ประกอบด้วย กู้เบิกเกินบัญชี ตั๋วสัญญาใช้เงิน การทำ Trust Receipt (T/R) และการทำสัญญากู้เงินเมื่อทวงถาม (Call Loan) โดยพิจารณาทำสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินที่เสนอรูปแบบที่มีต้นทุนต่ำที่สุดตามอัตราดอกเบี้ยตลาด กระทรวงการคลัง ไม่ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยจากการกู้เงินดังกล่าว เพื่อให้ กฟผ. สามารถบริหารสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยในสาระสำคัญของเรื่อง กระทรวงพลังงานรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบว่า
- วงเงินกู้ระยะสั้นแบบ Credit Line ที่ กฟผ. ได้รับความเห็นชอบจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 จะหมดอายุลงในวันที่ 11 กันยายน 2564 แต่ กฟผ. ยังมีความจำเป็นต้องใช้วงเงินกู้ดังกล่าว เพื่อรองรับการบริหารสภาพคล่องให้มีประสิทธิภาพ สำหรับการดำเนินงานของ กฟผ. เนื่องจาก
1.1 การดำเนินการของ กฟผ. จำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเป็นจำนวนที่สูงมาก โดยมีรายจ่ายประจำที่ต้องชำระ ได้แก่ ค่าเชื้อเพลิง ค่าซื้อกระแสไฟฟ้า ค่าใช้จ่ายลงทุน และอื่น ๆ รวมทั้งรายจ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามนโยบายภาครัฐ เช่น การขยายระยะเวลาชำระค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ซื้อกระแสไฟฟ้ารายใหญ่บางราย ทำให้ส่งผลกระทบต่อประมาณการกระแสเงินสด
1.2 กฟผ. อาจได้รับรายได้จากค่าไฟฟ้าหรือค่าขายไฟฟ้าคลาดเคลื่อนไปจากประมาณการกระแสเงินสดที่คาดการณ์ไว้
- คณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในการประชุมครั้งที่ 14/2563 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 มีมติเห็นชอบให้ กฟผ. ต่ออายุเงินกู้ระยะสั้นแบบ Credit Line เป็นระยะเวลา 3 ปี ในวงเงินปีละ 10,000 ล้านบาท นับตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2564 เป็นต้นไป ภายใต้เงื่อนไขเดิม ประกอบด้วย กู้เบิกเกินบัญชี ตั๋วสัญญาใช้เงิน การทำ Trust Receipt (T/R) และการทำสัญญากู้เงินเมื่อทวงถาม (Call Loan) โดยพิจารณาทำสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินที่เสนอรูปแบบที่มีต้นทุนต่ำที่สุดตามอัตราดอกเบี้ยตลาด