ปลัดพลังงานใหม่ เตรียมรื้อเกณฑ์พิจารณาอนุมัติงบกองทุนอนุรักษ์ฯปี 2561(เพิ่มเติม) และ ปี2562 ยึดตามระเบียบกระทรวงคลัง เน้นความคุ้มค่าเป็นประโยชน์ประเทศ ขณะที่ผลสอบเกี่ยวกับความโปร่งใส ชุดที่มี”เปรมฤทัย””เป็นประธาน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็นประธานคณะทำงานกลั่นกรองกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน(กองทุนอนุรักษ์ฯ) จะเดินหน้าพิจารณาการยื่นขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์ฯสำหรับโครงการปี2561(เพิ่มเติม) ภายใต้กลุ่มโครงการ “ไทยนิยมยั่งยืน” วงเงิน 5,200 ล้านบาท และการพิจารณางบปี2562 วงเงิน 10,448 ล้านบาท
แต่ทั้งนี้จะต้องทบทวนหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติงบประมาณใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการคลัง ซึ่งจะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีความเหมาะสม มีความจำเป็น ไม่ซ้ำซ้อน ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน สอดคล้องกับแผนอนุรักษ์พลังงาน พร้อมจัดลำดับความสำคัญของโครงการ เช่น โครงการตามพระราชำริ ที่จะพิจารณาอันดับแรก รวมถึงงบประมาณที่ยื่นขอเข้ามาจะสามารถดำเนินการต่อได้หรือไม่ หรือ มีงบประมาณสำหรับบำรุงรักษาในระยะต่อไปหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาประเมินผลด้วย
ส่วนการตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีความไม่โปร่งใสการดำเนินงานของกองทุนฯในปี 2561(เพิ่มเติม) และปี2562 นั้นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังอยู่ระหว่างพิจารณาข้อมูลต่างๆ ขณะที่การเสนอจัดประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน(บอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯ) ตามกำหนดการเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ต.ค. 2561นี้ คงต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากต้องรอให้คณะกรรมการกลั่นกรองฯทบทวนหลักเกณฑ์อนุมัติงบโครงการใหม่ให้แล้วเสร็จก่อน
ทั้งนี้ที่ผ่านมาการประชุมบอร์ด กองทุนอนุรักษ์ฯ เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา ได้พิจารณาคำของบปี2561(เพิ่มเติม) ภายใต้โครงการ “ไทยนิยม ยั่งยืน” วงเงิน 5,200 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 โครงการ 1. โครงการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร ที่มีเป้าหมาย 5,000 ระบบ มีจำนวนผู้ยื่นข้อเสนอ 2,630 ระบบ วงเงินที่ขอรับการสนับสนุน 2,090 ล้านบาท
2. โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับโรงเรียนชนบท เป้าหมาย 350 ระบบ จำนวนผู้ยื่นข้อเสนอ 653 ระบบ วงเงินที่ขอรับการสนับสนุน 4,626 ล้านบาท และ3. โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เป้าหมาย 170 ระบบ จำนวนผู้ยื่นข้อเสนอ 319 ระบบ วงเงินที่ขอรับการสนับสนุน 1,310 ล้านบาท โดยทั้ง 3 โครงการดังกล่าวผ่านเกณฑ์พิจารณา คิดเป็นมูลค่าคำขอเพียง 1,640 ล้านบาท จากงบที่มีอยู่ 5,200 ล้านบาท ยังเหลืองบอีกราว 3,000 ล้านบาท
ส่วนการพิจารณาคำของบปี 2562 ที่มีกรอบวงเงินสนับสนุน 10,448 ล้านบาท เบื้องต้น มีผู้ผ่านเกณฑ์ 380 คำขอ คิดเป็นมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท จึงยังเหลือวงเงินอีกกว่า 3,000ล้านบาท จากคำขอที่เสนอเข้ามา 955 โครงการ วงเงิน 33,341 ล้านบาท