‘กัลฟ์’ มอบหน้ากาก KN95 ให้กับโรงพยาบาล 9 แห่งในพื้นที่ติดชายแดนประเทศเมียนมาเสริมสร้างความพร้อมในการป้องกันโรคโควิด-19 หลังหลายพื้นที่ในเมียนมา มีการระบาดหนักและถูกสั่งให้ล็อคดาวน์อย่างไร้กำหนด
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้มอบหน้ากากทางการแพทย์ KN95 ให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเมียนมาทั้งหมด 9 โรงพยาบาล เป็นจำนวน 5,500 ชิ้น ได้แก่ โรงพยาบาลพบพระ จ.ตาก, โรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก, โรงพยาบาลแม่ระมาด จ.ตาก, โรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก, โรงพยาบาลแม่สาย จ.เชียงราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนบ้านผาหมี จ.เชียงราย, โรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์ จ.กาญจนบุรี, โรงพยาบาลกระบุรี จ.ระนอง และ โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นกลุ่มโรงพยาบาลที่อยู่ในจุดพื้นที่เสี่ยง ต้องได้รับการดูแลป้องกัน และเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากหลายพื้นที่ในประเทศเมียนมา มีการระบาดหนักและถูกสั่งให้ล็อคดาวน์อย่างไร้กำหนด ดังนั้น อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ป้องกันการติดเชื้อและช่วยเสริมความพร้อมในการรับมือกับการแพร่ระบาดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
โดยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับเป็นวิกฤตการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ และประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรการจัดการกับโรคระบาดได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทยอย่างประเทศเมียนมา กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวล เพราะอยู่ในสภาวะเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19 เป็นระลอก 2 ได้ เนื่องจากการรายงานสถานการณ์ระบุว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้สถิติจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พบว่า ประเทศเมียนมามีผู้ป่วยโควิด-19 มากกว่า 10,000 คนแล้ว และแต่ละวันเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 คน/วัน และยังพบว่าบางช่วงเพิ่มขึ้นเท่าตัวใน 1 เดือนที่ผ่านมา และนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม รัฐบาลเมียนมาได้ใช้มาตรการสกัดกั้นไวรัสอย่างเข้มงวดสูงสุด ในส่วนของฝั่งประเทศไทยเอง ก็ได้ดำเนินตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติของการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในประเทศอย่างเคร่งครัด พร้อมดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด