กองทุนน้ำมันฯ ติดลบทะลุ 1 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันโลกยังปรับขึ้นต่อเนื่อง ค่าการตลาดผู้ค้าลดต่ำกว่า 1.40 บาทต่อลิตร จับตาคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) เตรียมหารือพยุงราคาต่อ หรือ ปรับขึ้นราคาดีเซลเกิน 35 บาทต่อลิตรในเร็วๆนี้
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center -ENC) รายงานว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ติดลบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กว่า 1 แสนล้านบาท โดย ณ วันที่ 26 มิ.ย. 2565 สถานะกองทุนน้ำมันสุทธิติดลบรวม 102,586 ล้านบาท ซึ่งมาจากการใช้เงินดูแลราคาดีเซลทำให้บัญชีน้ำมันติดลบ 65,202 ล้านบาท และการนำเงินไปดูแลราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) ทำให้บัญชี LPG ติดลบ 37,384 ล้านบาท
โดยสาเหตุหลักมาจากการใช้เงินพยุงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 35 บาทต่อลิตร แต่ราคาน้ำมันโลกยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2565 คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบแนวทางช่วยเหลือราคาดีเซลใหม่ โดยหากราคาดีเซลเกิน 35 บาทต่อลิตร จะช่วยเหลือราคาส่วนเกิน 50% ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค.-30 ก.ย. 2565 และให้ผู้ค้าน้ำมันตรึงค่าการตลาดดีเซลไว้ไม่ให้เกิน 1.40 บาทต่อลิตร
ณ วันที่ 27 มิ.ย. 2565 ราคาดีเซลเกือบทุกค่าย ยกเว้นค่ายเชลล์ ยังคงจำหน่ายดีเซลที่ราคา 34.94 บาทต่อลิตร ส่วนเชลล์ราคาอยู่ที่ 35.24 บาทต่อลิตร ซึ่งคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ได้ปรับลดการอุดหนุนราคาดีเซล ณ วันที่ 24 มิ.ย. 2565 เหลือชดเชยอยู่ 10.91 บาทต่อลิตร
ดังนั้นหากในเดือน ก.ค. 2565 กองทุนฯ ยังชดเชยในอัตราดังกล่าว และราคาดีเซลทะลุ 35 บาทต่อลิตร จะส่งผลให้ต้องปรับขึ้นราคาดีเซลถึง 5.45 บาทต่อลิตร จากราคาชดเชยที่ 10.91 บาทต่อลิตร และทำให้ราคาดีเซลทะลุ 40 บาทต่อลิตรได้
สำหรับทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 27 มิ.ย. 2565 เวลาประมาณ 15.00 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 118.86 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.48 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 108.12 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.50 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 113.93 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.81 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ขณะที่ค่าการตลาดดีเซล ระหว่างวันที่ 1-27 มิ.ย. 2565 ซึ่งรายงานโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เฉลี่ยอยู่ที่ 1.12 บาทต่อลิตร ส่วนค่าการตลาดผู้ค้าดีเซล ณ วันที่ 27 มิ.ย. 2565 อยู่ที่ 1.24 บาทต่อลิตร ดังนั้นหากราคาน้ำมันโลกยังทรงตัวระดับสูงและค่าการตลาดผู้ค้าดีเซลลดต่ำกว่า 1.40 บาทต่อลิตร มีโอกาสที่ผู้ค้าน้ำมันจะต้องปรับราคาดีเซลขึ้นอีก แต่หากภาครัฐไม่ต้องการให้ราคาดีเซลเกิน 35 บาทต่อลิตร ทาง กบน. ก็ต้องพิจารณาให้กองทุนฯ เข้ามาพยุงราคาดีเซลไว้ต่อ หรืออาจจะปรับขึ้นราคาดีเซลเกิน 35 บาทต่อลิตรก็ได้ เนื่องจากมติ ครม. ที่ผ่านมากำหนดให้ขึ้นราคาดีเซลได้แบบคนละครึ่งของเงินอุดหนุน จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 2565 นี้ ซึ่ง กบน. เตรียมประชุมหารือกันในเร็วๆนี้