คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) อนุมัติเพิ่มเงินชดเชยราคาดีเซลเป็น 2.49 บาทต่อลิตร เพื่อตรึงราคาไม่ให้เกินเพดาน 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2565 หลังราคาน้ำมันโลกขยับขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่กองทุนน้ำมันฯ ติดลบหนักกว่า 8 พันล้านบาท
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2565 ได้มีมติให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นจาก 1.99 บาทต่อลิตร เป็น 2.49 บาทต่อลิตร เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร หรือคิดเป็นการนำเงินไปชดเชยประมาณ 148 ล้านบาทต่อวัน หรือ 4,600 ล้านบาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตามกองทุนน้ำมันฯจะชดเชยราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2565 แม้ราคาน้ำมันโลกจะปรับสูงขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่ผ่านมา
สำหรับราคาน้ำมันโลกยังทรงตัวระดับสูง โดย ณ วันที่ 18 ม.ค. 2565 ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 84.69 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล,น้ำมันดิบเวสเท็กซัส อยู่ที่ 85.14 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเบรนท์ มาอยู่ที่ 87.38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ในขณะที่สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 16 ม.ค. 2565 เงินกองทุนติดลบ 8,782 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันมีเงิน 15,340 ล้านบาท แต่บัญชี LPG ติดลบ 24,122 ล้านบาท โดยกองทุนฯมีเงินไหลออกจากการชดเชยราคาน้ำมันดีเซล 4,600 ล้านบาทต่อเดือน และชดเชย LPG รวม 1,900 ล้านบาทต่อเดือน รวมชดเชยทั้งสิ้น 6,500 ล้านบาทต่อเดือน
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center-ENC)รายงานว่า ถึงแม้ กบน.จะปรับเพิ่มอัตราชดเชยราคาดีเซล จาก 1.99 บาทต่อลิตร เป็น 2.49 บาทต่อลิตร เพื่อให้ผู้ค้าน้ำมันที่ให้ความร่วมมือกับรัฐ คือ โออาร์ โดยปั๊ม PTT Station และ บางจาก ยังคงราคาขายเอาไว้ที่ 29.84 บาทต่อลิตร แต่ ค่าการตลาดที่ผู้ค้าได้รับก็ยังคงอยู่ที่ระดับต่ำมาก เพียง 0.30 บาทต่อลิตร ( อ้างอิงโครงสร้างราคา วันที่ 18 ม.ค. 65 จากเว็บไซต์www.eppo.go.th) ในขณะที่ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นๆ โดยเฉพาะแบรนด์ของบริษัทน้ำมันต่างชาติ นั้นมีการปรับราคาจำหน่ายดีเซลทะลุเพดานราคา 30 บาทต่อลิตรไปแล้ว