กองทัพเรือ จับมือ กฟผ. เปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT แห่งแรก ในพื้นที่กองทัพเรือ ณ วังนันทอุทยาน กรุงเทพฯ หวังรุกสู่การเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ราชการอย่างกว้างขวาง เพื่อบรรลุเป้าหมายการก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้บังคับบัญชา และผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสองหน่วยงาน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT ในพื้นที่กองทัพเรือแห่งแรก ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน กรุงเทพฯ
พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือมีแนวคิดปรับเปลี่ยนรถธุรการของทางราชการจากที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า การที่ กฟผ. ได้ร่วมกับกรมส่งกําลังบํารุงทหารเรือ กองทัพเรือ จัดตั้งสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้า สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ในบริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยานแห่งนี้เป็นผลสำเร็จ นับเป็นก้าวประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ของการผลิตรถยนต์ในประเทศ ภายในปี 2573
โดยสถานีอัดประจุไฟฟ้าแห่งนี้จะช่วยส่งเสริมให้กำลังพลของกองทัพเรือหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้าจนนำไปสู่การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งในขั้นต้นนี้กองทัพเรือตั้งเป้าที่จะติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้ารวม 2 สถานี ได้แก่ วังนันทอุทยาน และอีก 1 สถานีในพื้นที่พระราชวังเดิม โดยดำเนินการในรูปแบบสวัสดิการแก่กำลังพลกองทัพเรือ เพื่อนำร่องสำหรับรูปแบบที่เหมาะสมในพื้นที่อื่น ๆ ของกองทัพเรือต่อไป
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า การพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT ในพื้นที่กองทัพเรือครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่จะสนับสนุนภารกิจสำคัญของประเทศช่วยผลักดันให้เกิดการลดการปล่อยมลพิษทางอากาศจากยานยนต์สันดาปภายใน อีกทั้งยังสนับสนุนให้กำลังพลของกองทัพเรือมีความมั่นใจที่จะใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน กฟผ. เปิดให้บริการสถานี EleX by EGAT พร้อมสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้วจำนวน 78 สถานีทั่วประเทศ ตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จ EleX by EGAT ให้มีจำนวนรวมกว่า 120 สถานีให้ได้ภายในสิ้นปี 2565 นี้ เพื่อให้ครอบคลุมการเดินทางทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น