กฤษฎีกา ยืนยัน “นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ” ไม่สามารถรักษาการตำแหน่ง “ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)” ได้ เหตุอายุครบ 70 ปี ตามเกณฑ์กฎหมายต้องพ้นจากตำแหน่ง หลัง 30 ก.ย. 2567 ทันที พลังงานยืนยันไม่มีการตั้งตำแหน่ง “รักษาการประธาน กกพ.” เหตุเป็นตำแหน่งที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ พร้อมระบุรอ ครม. อนุมัติ ตั้งคณะกรรมการสรรหาตำแหน่ง กกพ. เพื่อเดินหน้ากระบวนการสรรหา 4 กกพ. แทนผู้ที่พ้นวาระ ชี้ กกพ. ที่เหลือ 3 คน และรักษาการอีก 3 คน ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยไม่เกิดปัญหา
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้สอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ของ นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ว่าจะสามารถรักษาการตำแหน่งประธาน กกพ. หลังสิ้นสุดวาระงานในวันที่ 30 ก.ย. 2567 ได้หรือไม่
ทั้งนี้ทางกฤษฎีกาได้ตอบกลับคำถามดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า นายเสมอใจ ไม่สามารถรักษาการตำแหน่งประธาน กกพ. ได้ และต้องพ้นวาระงานเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปี ตามเกณฑ์การดำรงตำแหน่ง กกพ. ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 จะขาดตำแหน่งประธาน กกพ. ทันที
อย่างไรก็ตามในวันที่ 30 ก.ย. 2567 จะมี กกพ. 4 คน (จากทั้งหมด 7 คน) ที่ครบวาระงาน 6 ปี และต้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงนายเสมอใจ ประธาน กกพ. ด้วย ได้แก่
1.นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธาน กกพ.
2.นายสุธรรม อยู่ในธรรม กรรมการ กกพ.
3.นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการ กกพ.
4.นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการ กกพ.
ส่วน กกพ. ที่เหลืออีก 3 คน ยังสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้ คือ
1.นายนรินทร์ โอภามุรธาวงศ์ กรรมการ กกพ.
2. นายพิทักษ์ จรรยพงษ์ กรรมการ กกพ.
3.นายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา กรรมการ กกพ.
อย่างไรก็ตาม กกพ.ที่จะพ้นจากตำแหน่ง 3 คน (ยกเว้นนายเสมอใจ) ยังสามารถ “รักษาการตำแหน่ง กกพ.” ต่อไปได้ จนกว่าจะสรรหา กกพ. คนใหม่มาแทนได้สำเร็จ เนื่องจากทั้ง 3 คน อายุยังไม่ครบ 70 ปี ส่วนนายเสมอใจ จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เนื่องจากอายุครบ 70 ปีแล้ว
ดังนั้นในการปฏิบัติงานของ กกพ. จะไม่เกิดปัญหาแม้จะไม่มีประธาน กกพ. เนื่องจากยังมี กกพ. ที่เหลืออยู่ 3 คน รวมกับรักษาการอีก 3 คน เป็น 6 คน ที่ยังปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง และจะไม่มีการคัดเลือกตำแหน่ง “รักษาการประธาน กกพ.” เนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวได้รับการโปรดเกล้าฯ ดังนั้นจะไม่มีการตั้งประธาน กกพ. หรือ รักษาการประธาน กกพ. จนกว่ากระบวนการคัดเลือก กกพ. 4 คนใหม่จะแล้วเสร็จ จึงจะพิจารณาการตั้งประธาน กกพ. ต่อไปได้
ทั้งนี้ในการประชุมงานที่เกี่ยวข้องกับ กกพ. จากนี้ไปจะมีเฉพาะการตั้งประธานการประชุมเท่านั้น เพื่อให้การพิจารณาโครงการต่างๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนความคืบหน้าการสรรหา กกพ. ใหม่ทั้ง 4 คน ที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ลงนามแต่งตั้งผู้ที่จะมาเป็นคณะกรรมการสรรหาแล้ว โดยมี นายณอคุณ สิทธิพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา และ กรรมการประกอบด้วย ศ.ดร.นพ. พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะผู้แทนอธิการบดีสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ นายสมศักดิ์ สันธินาค จาก สมาคมเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านอยุธยา ที่มาแทน นาย วิจารย์ สิมาฉายา มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ที่ขอลาออก โดยมาในโควต้าของ ผู้แทนองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรในทางธุรกิจ เป็นต้น ส่วนกรรมการสรรหาที่เหลือ เป็นอดีตปลัดกระทรวงการคลัง (ประสงค์ พูนธเนศ ) อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (พสุ โลหารชุน ) อดีตเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ( ปรเมธี วิมลศิริ) ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้แทนนายกสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ โดยคณะกรรมการสรรหา กกพ. ดังกล่าว อยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ
อย่างไรก็ตามหลังจากตั้งคณะกรรมการสรรหาฯ ได้เรียบร้อยแล้ว จะเปิดการประชุมเพื่อเลือกประธานคณะกรรมการสรรหาฯ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจ และดำเนินการคัดเลือกตามระเบียบ เมื่อคณะกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาคัดเลือก 4 ตำแหน่ง กกพ. เรียบร้อยแล้ว จะส่งรายชื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพิจารณา จากนั้นจะนำรายชื่อเสนอ ครม. ให้ความเห็นชอบ ก่อนจะประกาศรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่ง กกพ. ทั้ง 4 คนต่อไป
