กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ย้ำผู้ค้าน้ำมันกว่า 2.7 หมื่นรายทั่วประเทศ ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล B10 และปรับสีของดีเซล B7 ซึ่งเป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานให้เป็นสีเหลือง ก่อนหมดระยะเวลาผ่อนผันสิ้นเดือน ก.ค. 2567 นี้ ระบุน้ำมันดีเซล B20 ที่เป็นน้ำมันทางเลือกสำหรับรถบรรทุก ปัจจุบันยังมียอดการใช้เหลืออยู่ไม่มากเพียง 0.15 ล้านลิตรต่อวันเท่านั้น ขณะที่ดีเซล B7 มียอดจำหน่ายสูงถึง 69.14 ล้านลิตรต่อวัน
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ได้ออกประกาศลดหัวจ่ายน้ำมันดีเซลให้เหลือเพียง 2 ชนิด คือ ให้น้ำมันไบโอดีเซล B7 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานของประเทศ และให้น้ำมันไบโอดีเซล B20 เป็นน้ำมันทางเลือกสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ และให้ผู้ประกอบการยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล B10 โดยมีผลตั้งแต่ 1 พ.ค. 2567 เป็นต้นไป แต่ยังผ่อนผันเวลาให้ผู้ประกอบการดำเนินการให้ถูกต้องจนถึงสิ้นเดือน ก.ค. 2567 นี้
ดังนั้นกรม ธพ. จึงขอย้ำเตือนผู้ค้าน้ำมันที่มีสถานีบริการน้ำมันอยู่ประมาณ 2.7 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการตามกฎหมายที่ ธ.พ. ประกาศให้ยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล B10 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 10% ในทุกลิตร) ให้เสร็จสิ้น ภายในสิ้นเดือน ก.ค. 2567 นี้
อย่างไรก็ตามน้ำมันไบโอดีเซล B10 และน้ำมันดีเซล B7 มีสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ที่เท่ากัน แต่มีสีต่างกัน (ไบโอดีเซล B10 มีสีม่วง ขณะที่ดีเซล B7 มีสีเหลือง) ดังนั้นการที่ดีเซล B7 ถูกผสมโดยน้ำมัน B10 จึงไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของน้ำมัน ยกเว้นสีที่จะผิดเพี้ยนไปจากที่กำหนดที่ต้องให้เป็นสีเหลือง ซึ่งผู้ประกอบการต้องดำเนินการปรับสีให้ถูกต้องเป็นสีเหลืองก่อนสิ้นสุดมาตรการผ่อนผัน
สำหรับน้ำมันดีเซล B7 ได้กำหนดสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ไว้ 6.6-7% ในดีเซลทุกลิตร ส่วนน้ำมันดีเซล B20 (สีแดง) กำหนดสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ไว้ 19-20% ในดีเซลทุกลิตร โดยปัจจุบันยังมียอดการใช้ดีเซล B20 เหลืออยู่แต่ไม่มาก ทั้งนี้ยอดรวมการใช้น้ำมันดีเซล เดือน ม.ค.-พ.ค. 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 69.30 ล้านลิตรต่อวัน แบ่งเป็นน้ำมันดีเซล B7 อยู่ที่ 69.14 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนน้ำมันดีเซล B20 อยู่ที่ 0.15 ล้านลิตรต่อวันเท่านั้น
ส่วนการกำหนดให้ดีเซล B7 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานของประเทศ และให้ดีเซล B20 เป็นน้ำมันทางเลือกสำหรับรถบรรทุกนั้น เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่เห็นชอบแนวทางการปรับลดชนิดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเหลือ 2 ชนิด และให้กรม ธพ. ดำเนินการออกประกาศตามกฎหมาย โดย กพช.พิจารณาแล้วเห็นว่าดีเซล B7 สามารถใช้งานกับรถยนต์ในปัจจุบันที่เป็นมาตรฐานยูโร 5 ได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อแล้วด้วย