กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดวอร์รูมเกาะติดเหตุการณ์น้ำทะลักเข้าเรือกักเก็บน้ำมันดิบจากแหล่งเบญจมาศ​

315
- Advertisment-

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดวอร์รูมเกาะติดเหตุการณ์น้ำทะลักเข้าเรือกักเก็บน้ำมันดิบพร้อมสนับสนุนปฏิบัติการกู้สถานการณ์​ โดยสั่งหยุดการผลิตน้ำมันดิบในแหล่งเบญจมาศชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย​ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบจำนวนประมาณ 13,000 บาร์เรลต่อวัน และก๊าซธรรมชาติจำนวนประมาณ 45 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยถึงสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นกับเรือกักเก็บน้ำมันดิบเบญจมาศ 2 ของบริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า ตัวเรือยังอยู่ในสภาพที่สามารถลอยตัวได้อย่างปลอดภัย และบริษัทฯ ได้ทำการหยุดการผลิตของแหล่งน้ำมันดิบเบญจมาศทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย และป้องกันมิให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินซ้ำซ้อน

ทั้งนี้ได้มีการตรวจสอบพบว่าไม่มีการรั่วไหลของน้ำมันดิบที่เก็บไว้ภายในตัวเรือแต่อย่างใด แต่เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นพนักงานของบริษัทผู้รับจ้างการควบคุมและบำรุงรักษาเรือ

- Advertisment -

“กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้จัดตั้ง วอร์รูม ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานงานอำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ รวมทั้งได้สั่งการให้บริษัทฯเตรียมความพร้อมสำหรับปฏิบัติการกอบกู้สถานการณ์ฉุกเฉินนี้ โดยจะมีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการอุดช่องทางน้ำผ่านเข้าเรือ และการปั๊มน้ำออกจากเรือต่อไป” นายสราวุธกล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะอยู่ในวงจำกัดเฉพาะภายในเรือ และการหยุดผลิตแหล่งน้ำมันดิบชั่วคราวดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบจำนวนประมาณ 13,000 บาร์เรลต่อวัน และก๊าซธรรมชาติจำนวนประมาณ 45 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานในประเทศในภาพรวม

ทั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อครอบครัวและญาติมิตรของผู้เสียชีวิต โดยได้กำชับให้บริษัทฯ ดำเนินการช่วยเหลือและดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด

Advertisment