กฟผ. เร่งผลิตและส่งมอบหมวกป้องกันเชื้อ PAPR ให้ทีมแพทย์โรงพยาบาลทั่วประเทศ ตามเป้าหมายแรก 500 ใบพร้อมตั้งเป้าผลิตเพิ่มอีก 500 ใบ หวังทีมแพทย์มีความสะดวกปลอดภัยมากขึ้นขณะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงวิกฤตโควิด-19
ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างใกล้ชิด โดยเพื่อให้ทีมแพทย์ด่านหน้ามีความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ทีมช่างจิตอาสา ของ กฟผ. ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการผลิตหมวกป้องกันเชื้อ PAPR (Powered Air Purifying Respirator) จะเร่งผลิตและส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศให้ได้ตามเป้าหมายแรก 500 ใบ ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งขณะนี้ทำไปแล้ว 300 ใบ และส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลแล้วกว่า 35 แห่งทั่วประเทศ
พร้อมทั้งยังเตรียมจัดหาทุนเพิ่มสำหรับการผลิตหมวกฯ ให้ได้อีก 500 ใบ เพื่อเสริมศักยภาพให้ทีมแพทย์ใช้เป็นเกราะป้องกันภัยโควิดแทนชุด PPE ต่อไป
ทั้งนี้ กฟผ. ดำเนินการผลิตหมวกป้องกันเชื้อ PAPR ภายในฐานการผลิตและทดสอบคุณภาพหลักที่ กฟผ. สำนักงานหนองจอก ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง ผลิต ทดสอบ และบริหารอะไหล่โรงไฟฟ้าแบบครบวงจร และกระจายการผลิตไปยังเขตเขื่อน โรงไฟฟ้าต่าง ๆ ที่มีความสามารถภายใต้การควบคุมมาตรฐานกลางเดียวกัน โดยผลิตในห้อง Clean Room เพื่อควบคุมความสะอาดตลอดขั้นตอนการผลิต มีการทดสอบให้ได้มาตรฐาน พร้อมบรรจุลงกล่องแยกชิ้นก่อนส่งมอบ จึงมั่นใจได้ว่าหมวกทุกใบสะอาดปราศจากสิ่งปนเปื้อน 100%
สำหรับตัวหมวกมีน้ำหนักเบา ใช้งานได้คล่องตัว รวมทั้งประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง
นางภานุ ศรีเสาวลักษ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลบ้านตาก กล่าวว่า หมวกป้องกันเชื้อ PAPR มีความจำเป็นมากสำหรับใส่ป้องกันตัวขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วย โดยหลังจากทดลองใช้งานพบว่า สามารถสื่อสารระหว่างทีมแพทย์ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะหมวกมีพัดลมมอเตอร์ที่สามารถปรับระดับเสียงและควบคุมความเร็วลมได้ด้วยตัวเอง อากาศที่เข้าไปไหลเวียนได้ดี ทำให้รู้สึกไม่ร้อนและไม่อึดอัด
พันโทหญิง รอนีย์ พรหมลา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ กล่าวว่า หมวกป้องกันเชื้อ PAPR ช่วยให้ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวกขึ้น รวมถึงเพิ่มความมั่นใจขณะปฏิบัติงานอีกด้วย
สำหรับ หมวกป้องกันเชื้อ PAPR เกิดจากน้ำใจของคนไทยร่วมกันกับ กฟผ. ระดมทุนผ่านแพลตฟอร์ม ‘เทใจ’ จนได้เงินทุนครบสำหรับการผลิตหมวกตามเป้าหมายภายในเวลาอันรวดเร็ว