การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เตรียมเสนอแผนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าหลักรวม 6,150 เมกะวัตต์ และโครงการโซลาร์ลอยน้ำในเขื่อนอีก 2,725 เมกะวัตต์ ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2018) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ พิจารณาอนุมัติ
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และในฐานะโฆษก กฟผ. เปิดเผยว่า กฟผ.เตรียมแผนการดำเนินงานและโครงการลงทุนต่างๆ เพื่อนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่พิจารณา โดยส่วนใหญ่จะเป็นการดำเนินงานตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ปี2561-2580(PDP 2018) เช่น แผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่เข้าระบบ ที่แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าหลักกำลังผลิตตามสัญญารวม 6,150 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าน้ำพอง กำลังผลิต 650 เมกะวัตต์ กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) ปี2568,โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ขนาด 600 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบปี 2569,โรงไฟฟ้าพระนครใต้ 700 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าปี 2569 และอีก 1,400 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าปี 2570,โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ขนาด 700 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าปี 2570 และอีก 700 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าปี 2572,โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ขนาด 700 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าปี 2571 และอีก 700 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าปี 2578
รวมถึงแผนลงทุนระบบผลิตไฟฟ้าผสมผสานระหว่าง ‘พลังน้ำจากเขื่อน’ และ ‘พลังงานแสงอาทิตย์จากโซลาร์เซลล์บนทุ่นลอยน้ำในเขื่อน’(Hydro-Floating Solar Hybrid) กำลังผลิตรวม 2,725 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเริ่มทยอยเข้าระบบตั้งแต่ปี 2563-2580 โดยในส่วนของโครงการนำร่อง ติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำที่เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี กำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่า จะเปิดขายซองประมูลหาผู้ดำเนินการติดตั้ง(EPC) ในรูปแบบการเปิดประมูลแบบนานาชาติ หรือ international competitive bidding ได้ช่วงกลางเดือนมิ.ย. 2562 นี้ และหากได้ผู้ชนะการประมูลแล้วก็จะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดใหม่ เพื่อขออนุมัติแผนการลงทุนดังกล่าวต่อไป