เกมนำเข้าLNG 1.5ล้านตัน ต่อปี จาก PETRONAS LNG Limited ยังไม่จบ กฟผ.ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีพลังงาน แจงช่วยประหยัดเงินค่าเชื้อเพลิงได้กว่า 3 หมื่นล้านบาท ยืนยัน ไม่มีปัญหาภาระ Take or Pay และช่วยลดค่าไฟได้ 2.7สตางค์ต่อหน่วย พร้อมลุ้น มติ กพช.และครม.ตัดสินใจขั้นสุดท้าย
แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยถึง มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562 ที่ให้ กฟผ.เปลี่ยนการนำเข้า LNG จากเงื่อนไขที่ใช้ในการประมูล ที่จะต้องมีการลงนามในสัญญาระยะกลาง8ปีกับ PETRONAS LNG Limited ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลโดยเสนอราคาต่ำสุด ในปริมาณ ไม่เกิน1.5ล้านตันต่อปี เป็นการทดลองนำเข้าจากตลาดจร หรือ spot ในปริมาณ 1-2คาร์โก้ คาร์โก้ละ 9หมื่นตัน ว่า ทางกฟผ. ยังไม่ได้เจรจาหรือแจ้งมติ ของ กบง.ให้กับ PETRONAS LNG Limited ได้รับทราบ ว่าจะต้องมีการยกเลิกการประมูล โดย ยังถือว่า กระบวนการนำเข้า LNG ของกฟผ.ที่มีการเปิดประมูลอย่างโปร่งใส ยังเป็นไปตามมติ ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) และมติของคณะรัฐมนตรี จนกว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงมติ
พร้อมกันนี้ กฟผ.ยังได้ทำหนังสือชี้แจงถึง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เกี่ยวกับประเด็นเรื่องของ ภาระ Take or Pay จากการนำเข้า LNG ในปริมาณไม่เกิน1.5ล้านตันต่อปี ว่าจะไม่มีปัญหานี้ เนื่องจาก เงื่อนไขการประมูลที่ระบุไว้ในทีโออาร์ นั้นมีความยืดหยุ่น ทั้งเรื่องปริมาณLNG ที่ปรับลดลงได้ เหลือ 8แสนตันต่อปี ถึง 1.5ล้านตันต่อปี และระยะเวลาการนำเข้า ที่อยู่ระหว่าง 4-8 ปี
แหล่งข่าว กล่าวว่า ราคาLNG ที่ทาง PETRONAS LNG Limited เสนอมา ซึ่งเป็นราคาต่ำที่สุดในบรรดาคู่แข่งอีก11รายนั้น ยังเป็นราคา ที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับราคาLNGที่ประเทศไทยเคยซื้อได้ในสัญญาระยะยาวทุกสัญญา ซึ่งช่วยให้ กฟผ.ประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้ถึงประมาณ 30,000ล้านบาทตลอดอายุสัญญา และทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้อีก2.7สตางค์ต่อหน่วย
แหล่งข่าว ยังอธิบายด้วยว่า ประเด็น Take or Pay เป็นเพียงการจ่ายเงินค่าก๊าซไปก่อนตามสัญญา โดยที่ยังไม่รับก๊าซ ซึ่งสามารถจะเรียกรับก๊าซเพิ่มขึ้นได้ในปีถัดไป เพื่อให้ครบจำนวนตามที่ตกลง โดยหากราคาก๊าซในอนาคตปรับเพิ่มสูงขึ้น จะทำให้ การจ่ายเงินค่าก๊าซ ล่วงหน้า เป็นการซื้อก๊าซในราคาถูก ซึ่งได้ประโยชน์ เพราะค่าไฟฟ้าจะถูกลง
แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า เชื่อว่า หลังจากที่รัฐมนตรีพลังงานได้รับข้อมูลชี้แจงจาก กฟผ. และรายงานให้ กพช.ได้รับทราบด้วย จะทำให้มีการทบทวนมติกบง. โดย การสั่งล้มประมูล PETRONAS LNG Limited ที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร นั้นจะกระทบต่อเครดิต เรทติ้ง ของกฟผ. และความเชื่อมั่นของประเทศ ในสายตานักลงทุนต่างชาติ
นอกจากนี้ การนำเข้าLNG 1.5ล้านตันต่อปีของ กฟผ.จากPETRONAS LNG Limited ซึ่งได้ราคาที่ต่ำ นั้น ยังเป็นการช่วยยืดระยะเวลาการใช้ก๊าซจากอ่าวไทย ได้นานขึ้น โดยสามารถที่จะลดปริมาณก๊าซลง ให้พอดีกับความต้องการของโรงแยกก๊าซ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี จากปัจจุบัน ที่ก๊าซจากอ่าวไทยส่วนหนึ่ง ถูกส่งตรงไปเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า โดยที่ไม่ผ่านโรงแยกก๊าซ ทำให้ประเทศเสียโอกาสในการใช้ทรัพยากรก๊าซธรรมชาติ อย่างมีประสิทธิภาพ