กฟผ. คาดสถานการณ์ด้านเชื้อเพลิงมีแนวโน้มคลี่คลายภายใน 2 สัปดาห์ หลังร่วมประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน ยืนยันพร้อมร่วมมือกับทุกหน่วยงานดูแลรักษาความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ
โดยกระทรวงพลังงานได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวเป็นการเร่งด่วนวันนี้(5 ส.ค. 65) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจาก สำนักงานคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน (กกพ.), ปตท. สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และ กฟผ.
ดร.จิราพร ศิริคํา รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขสถานการณ์และดําเนินการนำแหล่งก๊าซฯซอติก้า กลับมาจ่ายก๊าซฯ ให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมปรับแผนจัดหาเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าให้มีความต่อเนื่องและคํานึงถึงความมั่นคงด้านพลังงานเป็นอันดับแรก
ซึ่งจะช่วยให้สถานการณ์ของเดือนสิงหาคมนี้คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยไม่มีการเวียนดับไฟฟ้า หรือ Partial Blackout เนื่องจาก ปตท. ยืนยันว่า ในเดือนสิงหาคมจะมีปริมาณก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สํารองเพียงพอรองรับการผลิตไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้า กฟผ. และ IPP อีกทั้งยังมีแผนนําเข้า LNG เพิ่มในเดือนกันยายนนี้
ทั้งนี้ กฟผ. พร้อมร่วมมือกับทุกหน่วยงานดูแลรักษาความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าของประชาชนและทุกภาคส่วน โดยปรับแผนบริหารเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าและดูแลระบบส่งไฟฟ้าให้พร้อมส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าเต็มความสามารถถึงมือผู้ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตามเพื่อลดการนำเข้าพลังงานและเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงเพื่อการผลิตไฟฟ้า จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิง และช่วยให้ประเทศก้าวข้ามวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ด้วยดี รวมถึงจะสามารถลดผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าของประชาชนได้ในที่สุด
