คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ตรึงราคาดีเซลสัปดาห์นี้เท่าเดิม 34.94 บาทต่อลิตร แม้ราคาน้ำมันโลกจะทยอยลดลง หวังลดภาระชดเชยดีเซลที่ยังเหลืออยู่ 2.45 บาทต่อลิตรให้หมด จากนั้นจะเริ่มลดราคาดีเซลช่วยประชาชน พร้อมเผยสัปดาห์นี้จะรู้ผลการกู้เงิน 20,000 ล้านบาทจากแบงค์ ส่วนต้นเดือน ส.ค. 2565 เงินบริจาคก้อนแรก 1,000 ล้านบาท ของ ปตท. จะเริ่มเข้ากองทุนฯได้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระการชดเชยราคา LPG
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท ซึ่งเป็นการตรึงราคาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และบริหารจัดการสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สามารถช่วยเหลือราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสมได้ยาวนานขึ้น
ทั้งนี้การตรึงราคาดังกล่าวเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดีเซลโลกปรับลดลง 5.63 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2565 ราคาอยู่ที่ 134.14 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และลดลงเป็น 128.51 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยหลัก ๆ จากสถานการณ์โควิด-19 ในจีนยังคงกดดันตลาดซึ่งวิตกว่าจะมีมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดในหลายเมืองสำคัญ รวมถึงเซี่ยงไฮ้ด้วย ทำให้ความต้องการใช้พลังงานลดลง ประกอบกับ หลังจากการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้มีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.5% ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้ตลาดกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว และความต้องการใช้น้ำมันปรับลดลง
นอกจากนี้ปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) ได้ประกาศกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันบางส่วน หลังจากที่ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน (Force Majeure) ในแหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่หลายแห่ง เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคาดว่าจะทำให้แนวโน้มการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 0.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2565 ได้ออกมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนรอบใหม่ โดยในส่วนของราคาน้ำมันดีเซลมีมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล 50% ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่า 35 บาทต่อลิตรเป็นเวลา 3 เดือน (ก.ค. – ก.ย. 2565) ซึ่ง กบน.จะพิจารณาประกาศราคาน้ำมันดีเซลเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งในสัปดาห์นี้ยังคงให้จำหน่ายที่ราคาเดิม 34.94 บาทต่อลิตรต่อไปก่อน
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ยังชดเชยราคาดีเซลอยู่ 2.45 บาทต่อลิตร แต่หากราคาน้ำมันโลกปรับลดลงต่อเนื่อง และราคาจำหน่ายดีเซลยังคงไว้ที่ 34.94 บาทต่อลิตร จะส่งผลให้การชดเชยราคาดีเซลที่ 2.45 บาทต่อลิตรหมดลง จากนั้นทาง กบน.อาจพิจารณาปรับลดราคาน้ำมันดีเซลให้ต่ำกว่า 34.94 บาทต่อลิตรได้ แม้กองทุนฯ จะยังมีสถานะติดลบกว่า 1 แสนล้านบาทก็ตาม ซึ่งเท่ากับช่วยประชาชนได้ส่วนหนึ่งและกองทุนฯก็เก็บเงินเข้าได้ส่วนหนึ่งไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม กบน. ยังคงต้องประกาศราคาน้ำมันดีเซลเป็นรายสัปดาห์ต่อไป เนื่องจากต้องเฝ้าระวังราคาน้ำมันโลกผันผวน และดูแลราคาให้มีเสถียรภาพ
ส่วนเงินบริจาคที่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มอบให้กองทุนฯ 3,000 ล้านบาทนั้น ปตท. ได้แบ่งการให้เป็นเดือนละ 1,000 ล้านบาท เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งคาดว่าต้นเดือน ส.ค. 2565 นี้เงินก้อนแรก 1,000 ล้านบาทจะเข้าระบบได้ ซึ่ง กบน. จะเริ่มประชุมเพื่อพิจารณาวิธีการนำเงินมาใช้ โดยคาดว่าจะนำมาใช้เพื่อชดเชยราคา LPG เป็นหลัก เนื่องจากเป็นเงินบริจาคที่ได้จากส่วนของโรงแยกก๊าซ
สำหรับความคืบหน้าการขอกู้เงิน 20,000 ล้านบาทจากสถาบันการเงินนั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากครบกำหนดการพิจารณาของคณะกรรมการ(บอร์ด) ของสถาบันการเงินแต่ละรายแล้ว ดังนั้นภายในสัปดาห์นี้น่าจะมีความชัดเจนว่าธนาคารกรุงไทย หรือธนาคารออมสินจะเป็นผู้ปล่อยกู้ 20,000 ล้านบาท ให้กองทุนฯ
แหล่งข่าว กล่าวว่า ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน ณ วันที่ 24 ก.ค. 2565 ติดลบ 115,045 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 75,573 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 39,472 ล้านบาท โดยแต่ละเดือนยังมีเงินไหลออกจากการชดเชยราคาดีเซลและLPG อยู่ที่ 143 ล้านบาทต่อวัน ส่วนเงินไหลเข้ามาจากผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินและดีเซล เกรดพรีเมียม อยู่ที่ 5.54 ล้านบาทต่อวัน
ส่วนในเดือน ส.ค. 2565 นี้ ราคาขายปลีก LPG จะปรับขึ้นอีก 1 บาทต่อกิโลกรัม จากราคา 378 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม จะเพิ่มเป็น 393 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ซึ่งเป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2565 และแม้จะปรับราคาจำหน่ายขึ้น แต่กองทุนฯ ยังต้องชดเชยราคา LPG ต่ออีก 11.36 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากราคา LPG ตลาดโลกยังทรงตัวระดับสูงที่ 725 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน โดยหากไม่มีการชดเชย ราคาจริงจะสูงถึง 34.22 บาทต่อกิโลกรัม หรือเท่ากับประมาณ 513 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม