กบน. เร่งลดชดเชยดีเซลเหลือ 0.55 บาทต่อลิตร พยุงกองทุนฯ ที่ยังติดลบหนัก 7.8 หมื่นล้านบาท

272
- Advertisment-

คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เร่งลดภาระกองทุนน้ำมันฯ สั่งลดเงินชดเชยราคาดีเซลลงอีก เหลือ 0.55 บาทต่อลิตร หลังราคาน้ำมันโลกปรับลดลง ในขณะที่กองทุนฯ ติดลบ 7.8 หมื่นล้านบาท หวังสิ้นปี 2566 ติดลบไม่ถึง 1 แสนล้านบาท ด้านค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันเฉลี่ย 1-13 ธ.ค. 2566 อยู่ที่ระดับ 2.59 บาทต่อลิตร  

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center -ENC) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2566 คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้มีมติปรับลดการนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปชดเชยราคาดีเซล จากเดิมชดเชย 1 บาทต่อลิตร เหลือเพียง 0.55 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันโลกผันผวนปรับตัวลดลงเล็กน้อย

ส่วนของน้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ กบน. ยังเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันเพื่อส่งเข้ากองทุนฯ ดังนี้ น้ำมันเบนซิน เรียกเก็บ 9.38 บาทต่อลิตร , น้ำมันแก๊สโซฮอล์95 เรียกเก็บ 2.80 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 เรียกเก็บ 1.45 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เรียกเก็บ 0.81 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เรียกเก็บ 0.16 บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม เรียกเก็บ 1.50 บาทต่อลิตร

- Advertisment -

ทั้งนี้ส่งผลให้กองทุนฯ ยังมีรายรับจากการเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ประมาณ 135.26 ล้านบาทต่อวัน แต่รายจ่ายมีถึง 212.07 ล้านบาทต่อวัน เป็นผลให้กองทุนฯ อยู่ในสภาวะเงินไหลออก 76.81 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งมาจากการชดเชยราคาดีเซล 56.5 ล้านบาทต่อวัน และชดเชยราคา LPG 20.31  ล้านบาทต่อวัน

โดยสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด ณ วันที่ 12 ธ.ค. 2566 เงินกองทุนฯ อยู่ในสถานะติดลบ 78,760 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบ 32,708 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 46,052 ล้านบาท

ส่วนสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) คาดการณ์ว่า ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2566 กองทุนฯ จะติดลบไม่เกิน 1 แสนล้านบาท โดยน่าจะติดลบสูงสุดที่ 8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกได้ปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ตามในส่วนของค่าการตลาดน้ำมันที่ผู้ค้าได้รับ ณ วันที่ 12 ธ.ค. 2566 ที่รายงานโดย สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ณ วันที่ 13 ธ.ค. 2566 ค่าการตลาดกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ยังทรงตัวระดับสูงกว่า 3 บาทต่อลิตร โดยน้ำมันเบนซิน มีค่าการตลาดอยู่ที่ 3.86 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 3.31 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 3.45 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 3.30 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 1.94 บาทต่อลิตร ส่วนค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 1.58 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ภาพรวมค่าการตลาดเฉลี่ยนับตั้งแต่วันที่ 1-13 ธ.ค. 2566 อยู่ที่ 2.59 บาทต่อลิตร

จากค่าการตลาดดังกล่าว ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมัน ณ วันที่ 13 ธ.ค. 2566 เป็นดังนี้ น้ำมันดีเซล อยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 32.79 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 32.64 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 32.98 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 34.75 บาทต่อลิตร และน้ำมันเบนซิน อยู่ที่ 42.64 บาทต่อลิตร

ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกล่าสุด ณ วันที่ 13 ธ.ค. 2566  เวลาประมาณ 14.15 น.  ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 76.77 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.26 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 68.06 เหรียญหรัฐฯต่อบาร์เรล  ลดลง 0.63 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล  และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 72.56 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.59 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

Advertisment