คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ขยายกรอบวงเงินอุ้มราคา LPG อีก 3,000 ล้านบาท รวมเป็นกรอบใหม่ 36,000 ล้านบาท ชี้แม้ปรับขึ้นราคา LPG รอบสอง เป็น 348 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม แต่กองทุนฯ ยังมีภาระต้องชดเชยอยู่อีก 14-15 บาทต่อกิโลกรัม เหตุราคาตลาดโลกยังสูงถึง 855 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ทำให้เงินไหลออกจากบัญชี LPG ถึงวันละ 78 ล้านบาท ระบุ มิ.ย. นี้ปรับราคาอีก 1 บาทต่อกิโลกรัมเป็นรอบสุดท้าย ก่อน กบง. จะประชุมเพื่อหาแนวทางกำหนดราคา LPG ใหม่ เล็งใช้มาตรการคนละครึ่ง ขึ้นราคา LPG เช่นเดียวกับราคาดีเซล
แหล่งข่าวคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) เปิดเผยว่าที่ประชุม กบน. เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมาได้อนุมัติขยายกรอบวงเงินสำหรับใช้ดูแลราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) เพิ่มขึ้นอีก 3,000 ล้านบาท จากเดิมกำหนดกรอบไว้ 33,000 ล้านบาท โดยขยายเป็น 36,000 ล้านบาท เนื่องจากกองทุนฯ ได้ใช้เงินชดเชยราคา LPG เต็มกรอบวงเงินเดิมไปแล้ว และกองทุนฯยังต้องชดเชยราคา LPG ต่อไป แม้จะมีการปรับขึ้นราคา 1 บาทต่อกิโลกรัมมา 2 ครั้งแล้วก็ตาม เนื่องจากราคา LPG ตลาดโลกยังทรงตัวระดับสูง
โดยสถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด ณ วันที่ 8 พ.ค. 2565 เงินสุทธิติดลบ 66,681 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบ 33,258 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 33,423 ล้านบาท โดยในแต่ละวัน กองทุนฯ มีเงินไหลออกประมาณ 864 ล้านบาท แบ่งเป็นไหลออกจากการดูแลราคาดีเซลวันละ 781 ล้านบาท และดูแลราคา LPG วันละ 78.83 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามปัจจุบันราคา LPG ตลาดโลกยังคงทรงตัวระดับสูงและแทบจะไม่ลดลงเลย โดยอยู่ประมาณ 855 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน จากปกติที่เคยอยู่ระดับ 300-400 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่ราคาจำหน่าย LPG ในประเทศไทย ยังคงตรึงราคาไว้ที่ 348 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ทำให้กองทุนฯต้องชดเชยราคาจำหน่ายไว้อีกประมาณ 14-15 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ที่ผ่านมาคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) มีมติให้ปรับขึ้นราคา LPG เดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม หรือ 15 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม เป็นจำนวน 3 ครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย. 2565 ราคา LPG เพิ่มขึ้นจาก 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม เป็น 333 บาท และในเดือน พ.ค. 2565 นี้ปรับขึ้นเป็น 348 บาท ส่วนในเดือน มิ.ย. 2565 จะปรับขึ้นอีกเป็น 363 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม แต่แม้ว่าจะปรับขึ้นราคาครบ 3 ครั้งแล้ว กองทุนฯ ก็ยังต้องชดเชยราคาอยู่ เนื่องจากราคา LPG ตลาดโลกยังทรงตัวระดับสูง แต่การชดเชยจะปรับลดลงได้เล็กน้อย จาก 14-15 บาทต่อกิโลกรัม เหลือประมาณ 11 บาทต่อกิโลกรัม
อย่างไรก็ตามภายในเดือน มิ.ย. 2565 นี้ กบง. จะต้องประชุมเพื่อหาข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับราคา LPG หลังสิ้นสุดมาตรการปรับขึ้นราคาเดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือนไปแล้ว ซึ่งแนวทางหนึ่งที่มีการพูดถึงก็คือ การปรับขึ้นราคา LPG เหมือนราคาดีเซล คือ ปรับขึ้นครึ่งหนึ่งของราคาชดเชย และกองทุนฯ ช่วยอุดหนุนอีกครึ่งหนึ่ง เช่น ปัจจุบันบันชดเชยราคา LPG อยู่ 14 บาทต่อกิโลกรัม ก็อาจปรับขึ้น 7 บาทต่อกิโลกรัม โดยทยอยปรับขึ้นเป็นขั้นบันได เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับที่ประชุม กบง. ที่จะพิจารณาถึงผลกระทบต่อประชาชนและทิศทางราคา LPG ในเดือน มิ.ย. 2565 เป็นหลักเพื่อประกอบการตัดสินใจต่อไป