กบน.เตรียมหารือรับมือราคาดีเซล เสนอ ครม. ก่อนสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร สิ้นเดือน ก.ค. 2567 นี้

359
Screenshot
- Advertisment-

คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เตรียมประชุมหารือเรื่องราคาดีเซล ที่จะสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร ในวันที่ 31 ก.ค. 2567 นี้ เพื่อเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ชี้ตั้งแต่ เม.ย. 2567 ถึงปัจจุบัน ปรับขึ้นราคาดีเซลแล้ว 6 ครั้ง รวม 3 บาทต่อลิตร จาก 29.94 บาท เป็น 32.94 บาทต่อลิตร แต่กองทุนน้ำมันฯ ยังประสบปัญหาเงินไหลออกในแต่ละวันประมาณ 178 ล้านบาท ขณะที่กองทุนฯ ติดลบรวม 111,338 ล้านบาท  

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานสถานการณ์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) จะมีการหารือกันในเดือน ก.ค. 2567 เพื่อจัดเตรียมข้อมูลเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณากรณีตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ซึ่งจะสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 31 ก.ค. 2567 นี้

เนื่องจากที่ผ่านมา กบน. เคยมีมติเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 ประกาศให้สามารถปรับราคาดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตรได้ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2567 โดยการใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ มาบริหารจัดการราคา ซึ่งขณะนั้นราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร และต่อมาในวันที่ 7 พ.ค. 2567 ครม. ได้มีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลได้ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร โดยให้มีผลระหว่าง 20 เม.ย.-31 ก.ค. 2567

- Advertisment -

โดยล่าสุดราคาน้ำมันดีเซลได้ปรับขึ้นจาก 29.94 บาทต่อลิตร ในเดือน มี.ค. 2567 มาเกือบเต็มราคาเพดานที่ ครม. กำหนด โดยราคาอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร ขณะที่บางค่ายน้ำมันราคาอยู่ที่ 33.44 บาทต่อลิตร (ข้อมูลราคาน้ำมันจาก สนพ. ณ วันที่ 8 ก.ค. 2567)

สำหรับการปรับขึ้นราคาดีเซลที่ผ่านมา กบน.ได้ประกาศขึ้นราคาดีเซลแล้ว  6 ครั้ง รวมเป็นเงิน 3 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นการปรับขึ้นราคาครั้งละ 50 สตางค์ต่อลิตร โดยสาเหตุที่ต้องปรับขึ้นราคาเนื่องจากกองทุนน้ำมันฯ อยู่ในสถานะติดลบสูง โดยในเดือน เม.ย. 2567 (ช่วงที่เริ่มปรับขึ้นราคาดีเซลครั้งแรก 6 เม.ย. 2567) กองทุนน้ำมันฯ ติดลบอยู่ 99,821 ล้านบาท และการปรับขึ้นราคาดีเซลครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2567 กองทุนน้ำมันฯ ยังคงติดลบสูงขึ้นถึง 111,345 ล้านบาท

ทั้งนี้กองทุนฯ มีภาระต้องจ่ายคืนเงินต้นที่กู้จากสถาบันการเงินก้อนแรก 30,000 ล้านบาท ในเดือน พ.ย. 2567 นี้ โดยที่ผ่านมา กบน. มีเป้าหมายจะให้กองทุนฯ มีรายได้เป็นบวกในแต่ละวันให้ได้ภายในเดือน ต.ค. 2567 นี้ เพื่อให้สามารถคืนเงินต้นได้ทันในเดือน พ.ย. 2567 จึงได้ดำเนินการปรับขึ้นราคาดีเซลเพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันฯ ลงบ้าง แต่ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ยังอยู่ในภาวะเงินไหลออกประมาณ 178.28 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งมากกว่าเงินไหลเข้า 158.47 ล้านบาทต่อวัน เป็นเหตุให้เงินกองทุนฯ ติดลบวันละ  19.81 ล้านบาท หรือประมาณ 594 ล้านบาทต่อเดือน

ล่าสุด สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.)  ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2567 รายงานสถานะเงินกองทุนน้ำมันฯ ติดลบรวม -111,338 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบรวม -63,641 ล้านบาท และมาจากบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบรวม -47,697 ล้านบาท ทั้งนี้กองทุนฯ ยังคงชดเชยราคาดีเซลอยู่ 2.39 บาทต่อลิตร ดังนั้นถ้าหากไม่ชดเชยจะส่งผลให้ราคาดีเซลแท้จริงอยู่ที่ประมาณ 35.33 บาทต่อลิตร

ขณะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกล่าสุด ณ วันที่ 8 ก.ค. 2567 เวลาประมาณ 14.40 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 87.15 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 82.64 เหรียญหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.52 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล  และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 86.16 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.38 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

และเมื่อพิจารณาค่าการตลาดน้ำมันที่ผู้ค้าได้รับ ในวันที่ 8 ก.ค. 2567 ซึ่งรายงานโดย สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) พบว่าค่าการตลาดดีเซลอยู่ที่ 1.86 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มเบนซินยังสูงอยู่ที่ประมาณ 3-4 บาทต่อลิตร โดยเฉลี่ยค่าการตลาดน้ำมัน 1-8 ก.ค. 2567 อยู่ที่ 2.73 บาทต่อลิตร  (จากค่าการตลาดที่ควรได้ที่ 1.50-2 บาทต่อลิตร)

ดังนั้นแสดงให้เห็นว่าราคาน้ำมันยังคงผันผวน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบปรับสูงขึ้นถึง 4.60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ค่าการตลาดดีเซลยังอยู่ในระดับที่รับได้ที่ 1.86 บาทต่อลิตร ฉะนั้นอาจมีการปรับราคาน้ำมันในประเทศได้อีกครั้ง

Advertisment