กบน. สั่งลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน-ดีเซล 1 บาทต่อลิตร รองรับเทศกาลสงกรานต์

690
- Advertisment-

คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.)  มีมติปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้ราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล ลดลง 1 บาทต่อลิตร โดยแบ่งการลดราคาเป็น 50 สตางค์ต่อลิตร 2 ครั้งในวันที่ 28 มี.ค. และ 4 เม.ย. 2568 เพื่อบรรเทาค่าครองชีพ รองรับการกลับภูมิลำเนา การท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ เผยสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกมีทิศทางลดลง ส่งผลดีต่อฐานะกองทุนฯ ภาระหนี้ลดลง โดยปัจจุบันกองทุนฯ ติดลบลดลงเหลือ 60,052 ล้านบาท คาดกลับมาเป็นบวกได้ช่วง พ.ค.- มิ.ย. 2568 นี้  

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบน.ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับกลุ่มน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลงรวม 1 บาทต่อลิตร ซึ่งการปรับลดราคาดังกล่าวจะดำเนินการเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 50 สตางค์ต่อลิตร ได้แก่ ครั้งที่ 1 วันที่ 28 มี.ค. 2568 และครั้งที่ 2 วันที่ 4 เม.ย. 2568 เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อประชาชน และสอดรับกับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับลดลง และสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เริ่มมีรายรับเพิ่มขึ้น

“การปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันเบนซิน-ดีเซล ครั้งนี้ เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเดินทางเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน โดยเฉพาะกลุ่มดีเซล ที่คิดเป็น 2 ใน 3 ของปริมาณการใช้น้ำมันทั้งหมด เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนา และเป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัว กระตุ้นการเดินทาง เพื่อการท่องเที่ยวในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์”

- Advertisment -

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) รายงานถึงสถานการณ์และฐานะของกองทุนน้ำมันฯ ในช่วงต้นปี (ม.ค. ถึง 23 มี.ค. 2568) พบว่า ฐานะกองทุนน้ำมันฯ มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยด้านราคาน้ำมันดิบดูไบช่วงที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับเฉลี่ยกว่า 8,000 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯ จากเดิมเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2568 กองทุนฯ ติดลบอยู่ที่ 75,945 ล้านบาท (บัญชีน้ำมันติดลบ 29,009 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 46,936 ล้านบาท) ต่อมาในวันที่ 23 มี.ค. 2568 เหลือติดลบ 60,052 ล้านบาท (บัญชีน้ำมันติดลบ 14,063 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,989 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตามคาดว่าเงินกองทุนฯ จะกลับมาเป็นบวกได้ประมาณเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2568 นี้ แต่ก็ยังมีภาระหนี้สินที่ยังต้องชำระอีกมาก ซึ่งขณะนี้กองทุนฯ ยังมีเงินไหลเข้าเพียงพอชำระหนี้ ดังนั้นจึงสามารถนำเงินส่วนหนึ่งมาลดราคาน้ำมันให้ประชาชนได้ โดยคาดว่าจะใช้เงินกองทุนฯ ประมาณ 100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การใช้เงินจำนวน 67 ล้านบาท สำหรับลดราคาดีเซล และใช้เงินอีก 32 ล้านบาท สำหรับลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน  

“กบน.ยืนยันความมุ่งมั่นในการรักษาเสถียรภาพราคาพลังงานให้กับประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะยังคงทำหน้าที่ดูแลราคาพลังงานให้เหมาะสมและเป็นธรรม พร้อมมุ่งมั่นดำเนินงานภายใต้หลักการ “เปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้” เพื่อประโยชน์ของประชาชน และทุกภาคส่วน” นายพีระพันธุ์ กล่าว

Advertisment