กบง.เห็นชอบปริมาณนำเข้า LNG ปี 2564 – 2566 เพื่อรองรับแนวทางการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 รวมกว่า 5.24 ล้านตัน พร้อมขยายเวลาคงราคา LPG ออกไปอีก 3 เดือน เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน
การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ในวันนี้ (28 มิถุนายน 2564) ที่ประชุมมีมติเห็นชอบปริมาณการนำเข้า Liquefied Natural Gas (LNG) ปี 2564 – 2566 เพื่อรองรับแนวทางการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 ที่ไม่กระทบต่อ Take or Pay เท่ากับ 0.48 ล้านตันต่อปี 1.74 ล้านตันต่อปี และ 3.02 ล้านตันต่อปี ตามลำดับ และมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้ดำเนินการจัดสรรปริมาณการนำเข้า LNG ตามโครงสร้างของกิจการก๊าซธรรมชาติในระยะที่ 2 คือ Regulated Market ( กลุ่มที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กกพ. จัดหา LNG เพื่อนำมาใช้กับภาคไฟฟ้าที่ขายเข้าระบบ ) และ Partially Regulated Market ( กลุ่มที่จัดหา LNG เพื่อใช้กับโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้ขายไฟฟ้าเข้าระบบ ภาคอุตสาหกรรมและกิจการของตนเอง ) สำหรับ New Demand และกำหนดหลักเกณฑ์ในการนำเข้าของ Shipper รวมทั้งกำกับดูแลต่อไป
นอกจากนี้ยังพิจารณาเห็นว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพและภาระค่าครองชีพของประชาชน ประกอบกับสถานการณ์ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ที่ประชุม กบง. จึงได้เห็นชอบ ให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG หรือคงราคาขายปลีกที่ 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 โดยมอบหมายให้กระทรวงพลังงาน ติดตามสถานการณ์ราคา LPG แล้วนำเสนอแนวทางการทบทวนราคาขายหน้าโรงกลั่น LPG ให้ กบง. พิจารณาอีกครั้ง
