กบง.เห็นชอบข้อเสนอปรับปรุงหลักเกณฑ์ซื้อไฟจากพลังงานลม, แสงอาทิตย์ และขยะอุตสาหกรรม

1275
- Advertisment-

กบง. เห็นชอบข้อเสนอการปรับปรุงหลักเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม,พลังงานลม 600 เมกะวัตต์ และ พลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนพื้นดิน ไม่เกิน 1,580 เมกะวัตต์ พร้อม ให้เลื่อนวันเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (SCOD) สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งทุเลาของศาลปกครองกลาง จำนวน 22 โครงการ เพื่อบรรเทาภาระประชาชน และเห็นชอบพยุงราคาขายปลีก NGV 3 เดือน ตั้งแต่  16 สิงหาคม – 15 ตุลาคม 2567

วันนี้ (31 กรกฎาคม 2567) นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง. ซึ่งมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานมีมติเห็นชอบข้อเสนอการปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมสำหรับโครงการผลิตไฟฟ้ากลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง และขยะอุตสาหกรรม ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) สำหรับปี 2565 – 2573 เพื่อสนับสนุนการลงทุนในพลังงานสะอาด โดยมีการทบทวนและปรับหลักเกณฑ์สำหรับผู้ยื่นคำเสนอที่ผ่านหลักเกณฑ์ในรอบแรกที่ไม่ได้รับการคัดเลือก จะได้รับการพิจารณารับซื้อเป็นลำดับแรกในปริมาณการรับซื้อไฟฟ้ารวมไม่เกิน 600 เมกะวัตต์ สำหรับพลังงานลม และไม่เกิน 1,580 เมกะวัตต์ สำหรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับโควตาส่วนที่เหลือจากการเปิดรับซื้อข้างต้น ให้เป็นการเปิดรับซื้อเป็นการทั่วไป

ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอหลักเกณฑ์การปรับเลื่อนกำหนดวันเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (SCOD) สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1) ในช่วงปี พ.ศ. 2564 – 2573 (ปรับปรุงเพิ่มเติม) ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งทุเลาของศาลปกครองกลาง จำนวน 22 โครงการ ทำให้โครงการต้องชะลอการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้ กกพ. ไปพิจารณาปรับกรอบระยะเวลาการเข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และปรับเลื่อนกำหนด SCOD สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมดังกล่าวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของแต่ละโครงการได้ตามสมควร ทั้งนี้ ไม่ให้เกินกรอบภายในปี พ.ศ. 2573 เพื่อไม่ให้กระทบต่อแผนการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดของประเทศตามเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ 30-40% (Nationally Determined Contribution: NDC) ภายในปี พ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030)

- Advertisment -

สำหรับการช่วยเหลือราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์  NGV ที่ประชุมมีมติให้นำส่วนต่างต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดจากผลการดำเนินการตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 ในการปรับหลักเกณฑ์การคิดราคาก๊าซธรรมชาติที่เข้าและออกจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ มาช่วยพยุงราคาขายปลีก NGV ไม่ให้มีการปรับขึ้นอย่างทันทีจากราคาก๊าซธรรมชาติในช่วงปลายปีที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 16 สิงหาคม – 15 ตุลาคม 2567 โดยมอบหมายให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รับไปดำเนินการและให้รายงานผลการดำเนินการให้ กบง. ทราบต่อไป 

Advertisment