รัฐมนตรีพลังงาน สั่งตรึงราคา LPG ต่อที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ช่วยลดภาระประชาชน เตรียมประชุม กบง. สัปดาห์นี้ พิจารณาตรึงราคาอีก 3 เดือน ระหว่าง เม.ย.-มิ.ย. 2568 ระบุกองทุนน้ำมันฯ ยังมีรายรับเข้ากว่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมดูแลราคา LPG ได้ต่อเนื่อง ขณะที่กองทุนฯ ใช้เงินดูแล LPG กว่า 4 ปี ถึง 45,989 ล้านบาท ภายใต้กรอบวงเงินไม่เกิน 50,000 ล้านบาท
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เตรียมที่จะประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เร็วๆนี้ เพื่อพิจารณาทบทวนราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่จะสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม โดยยืนยันว่าจะพิจารณาตรึงราคาดังกล่าวต่อไป เพื่อช่วยดูแลราคาพลังงานให้กับประชาชน เนื่องจากเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ดูแลราคา LPG อยู่นั้น ปัจจุบันมีรายรับเข้ามากว่า 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งสามารถนำมาใช้ดูแลราคา LPG ให้ประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ปัจจุบันราคา LPG โลกอยู่ที่ 610 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ส่งผลให้ราคาขายปลีก LPG ที่แท้จริงอยู่ที่ 28.02 บาทต่อกิโลกรัม (รวมค่าขนส่งอีก 35 บาท ทำให้ราคาขายปลีกอยู่ที่ 455.3 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ) แต่กองทุนฯ ได้ชดเชยราคาอยู่ที่ 2.15 บาทต่อกิโลกรัม หรือตรึงราคาไว้ที่ 32.25 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม เมื่อรวมค่าขนส่งอีก 35 บาท ทำให้ราคาขายปลีกปัจจุบันอยู่ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม
สำหรับการตรึงราคา LPG รอบใหม่ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม จะตรึงราคาไว้เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มที่เดือน เม.ย.-มิ.ย. 2568
อย่างไรก็ตามปัจจุบันกองทุนฯ ยังมีรายรับจาก LPG โดยรวมอยู่ที่ 21 ล้านบาทต่อวัน จึงเพียงพอดูแลราคา LPG ต่อไปได้ ส่วนภาพรวมกองทุนฯ ล่าสุด ณ วันที่ 23 มี.ค. 2568 กองทุนฯ ติดลบเหลือ -60,052 ล้านบาท โดยมาจากบัญชีน้ำมันติดลบเหลือ -14,063 ล้านบาท และมาจากบัญชี LPG ติดลบเหลือ -45,989 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า ที่ผ่านมากองทุนน้ำมันฯ ได้ตรึงราคา LPG มาตั้งแต่เดือน เม.ย. 2565 ที่ 333 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม จากนั้นค่อยๆ ขยับราคาขึ้นมาจนถึงราคา 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ในเดือน มี.ค. 2566 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 4 ปี ที่กองทุนฯ ใช้เงินตรึงราคาไปทั้งสิ้นประมาณ 45,989 ล้านบาท โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้กำหนดกรอบวงเงินสำหรับชดเชยราคา LPG ได้ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ดังนั้นยังเหลือวงเงินที่ชดเชยราคาได้อีกประมาณ 4,011 ล้านบาท
นอกจากนี้ที่ผ่านมา กบง. เคยเสนอให้ปรับขึ้นราคา LPG เดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อลดภาระการชดเชยราคา LPG ของกองทุนฯ ลง แต่นับตั้งแต่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้ามาบริหารงาน ก็ยังไม่เคยมีการปรับขึ้นราคา LPG แต่อย่างใด
