กบง. ห่วงลอยตัวราคาเอ็นจีวี 16 พ.ค. นี้ราคาปรับขึ้นอีก 6.21 บาทต่อกิโลกรัม จาก 10.62 บาทต่อกิโลกรัม มาอยู่ที่ 16.83 บาทต่อกิโลกรัม เร่งทำหนังสือถึง ปตท. ขอความร่วมมือให้ทยอยปรับขึ้นราคาเพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริโภค ในขณะที่เตรียมมาตรการจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ดีเซล B10 ต้นเดือน พ.ค. 2562 นี้ ด้วยการขอลดภาษีสรรพสามิตและใช้เงินกองทุนน้ำมันฯอุดหนุน
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) รายงานว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ซึ่งประชุมในวันที่ 19 เม.ย. 2562 ได้หารือถึงกรณีมติ กบง.เดิมที่กำหนดให้ปรับลอยตัวราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV)ตามกลไกราคาตลาด ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2562 เป็นต้นไป ที่ราคาจะลอยตัวขึ้นอีก 6.21บาทต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 10.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 16.83 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งที่ประชุมฯกังวลว่าการลอยตัวราคาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อค่าขนส่งและค่าโดยสารของประชาชน โดยเฉพาะเมล์และรถตู้สาธารณะ จึงจะทำหนังสือถึงบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เพื่อขอความร่วมมือให้ทยอยปรับขึ้นราคา NGV ในอัตราที่เหมาะสม นับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2562 นี้ เป็นต้นไป
นอกจากนี้ที่ประชุม กบง.ยังหารือถึงมาตรการจูงใจการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B10 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 10% ในทุกลิตร) ก่อนที่จะประกาศให้จำหน่ายได้จริงเป็นครั้งแรกในไทย โดยเบื้องต้นเห็นว่าควรใช้มาตรการจูงใจด้านราคา ด้วยการจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลปัจจุบัน หรือ ไบโอดีเซล B7 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 7% ในทุกลิตร) ในอัตรา 1 บาทต่อลิตร ซึ่งการลดราคาดังกล่าวจะต้องมาจาก 2 ส่วนคือ การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และการนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาอุดหนุน
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานจะทำหนังสือถึงกรมสรรพสามิตให้พิจารณาลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง จากปัจจุบันเก็บอยู่ 5.98 บาทต่อลิตร โดยกระทรวงพลังงานจะเสนออัตราที่ควรปรับลดในอัตราไม่กี่สตางค์เท่านั้น ซึ่งตามขั้นตอนเมื่อกรมสรรพสามิตเห็นชอบลดภาษีน้ำมันแล้ว จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน จากนั้น กบง.จะพิจารณานำเงินกองทุนน้ำมันฯมาอุดหนุนเพื่อให้ราคาจำหน่ายลดต่ำกว่า B7 รวม 1 บาทต่อลิตรต่อไป
ขณะเดียวกัน กบง.ได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน ไปศึกษาสเปคน้ำมัน B10 และการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ก่อนออกประกาศให้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศแทนน้ำมันดีเซลฐาน B7 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งตามเป้าหมายของรัฐมนตรีพลังงาน ต้องการให้เริ่มจำหน่ายดีเซล B10 ได้ช่วงต้นเดือน พ.ค. 2562 นี้