คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมออกประกาศ “หลักเกณฑ์การคำนวณราคาก๊าซธรรมชาติ (Energy Pool Price: EPP) ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้าที่ขายไฟฟ้าเข้าระบบ” เปิด Shipper การแข่งขันนำเข้า LNG เข้าระบบPool ที่สามารถส่งผ่านต้นทุนไปที่ค่าไฟฟ้าเอฟทีให้ประชาชนช่วยรับภาระแทนได้ หลังจากโควต้าปี2565 ที่ออกตามนโยบายเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ ไม่มี Shipper รายใดแจ้งขอนำเข้า เพราะต้องรับความเสี่ยงจากราคาที่เพิ่มสูงขึ้นไว้เอง
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center- ENC ) รายงานว่า นโยบายเปิดเสรีธุรกิจก๊าซของภาครัฐที่หวังจะให้เอกชนซึ่งได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซ (Shipper) จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ออกนอกระบบPool Gas เพื่อนำเข้าLNGมาใช้ในโรงไฟฟ้าของตัวเองและแบกรับความเสี่ยงจากต้นทุนราคาเชื้อเพลิงเอง ยังไม่ประสบความสำเร็จ โดยโควต้าที่เปิดให้นำเข้าสำหรับปี 2564 และ2565 ยังไม่มีShipperรายใดแจ้งขอนำเข้า เนื่องจาก ราคา LNG นำเข้า อยู่ในระดับที่สูงกว่าที่ซื้อจากระบบPool Gas ของ ปตท. อย่างไรก็ตามก็มีความพยายามจากภาครัฐที่จะให้ Shipper ดังกล่าวมีการแข่งขันจัดหาLNGเข้าระบบPool Gas ที่สามารถทำให้Shipperมีมาร์จินจากการจัดหาและส่งผ่านต้นทุนไปให้ผู้ใช้ไฟฟ้าช่วยรับภาระแทนในส่วนค่าเอฟทีของค่าไฟฟ้าได้
โดย แหล่งข่าวคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เปิดเผยว่า
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมออกประกาศ “หลักเกณฑ์การคำนวณราคาก๊าซธรรมชาติ (Energy Pool Price: EPP) ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้าที่ขายไฟฟ้าเข้าระบบ” ที่ล่าสุดได้ออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในเร็วๆนี้
โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะเปิดทางให้ Shipper รายใหม่ สามารถนำเข้าก๊าซ LNG จากแหล่งใดก็ได้เพื่อมาผลิตไฟฟ้าที่สามารถนำราคา LNG มาหารเฉลี่ยในราคา Pool Gas ให้กลายเป็นราคาเฉลี่ยต้นทุนเชื้อเพลิง EPP ได้ ซึ่งวิธีการนี้จะส่งผลให้ Shipper เกิดการแข่งขันนำเข้า LNG โดยที่ กกพ.จะเป็นผู้เลือกซื้อ LNG จาก Shipper ที่เสนอราคาต่ำที่สุดก่อนไล่เรียงตามลำดับ
ทั้งนี้ปริมาณที่จะเปิดให้แข่งขันนำเข้าตามประกาศจะเป็นปริมาณตามโควต้าปี65 ภายใต้นโยบายเปิดเสรีธุรกิจก๊าซธรรมชาติระยะที่ 2 ซึ่งจะเป็นส่วนที่เพิ่มเติมจากสัญญานำเข้า LNG ระยะยาวของ ปตท. ปริมาณรวม 4.5 ล้านตัน ที่เหลืออยู่ 2.7 ล้านตัน เนื่องจาก ปริมาณ 1.8 ล้านตันแรก นั้นรัฐอนุมัติให้ปตท.เป็นผู้นำเข้าเพื่อทดแทนก๊าซฯจากแหล่งเอราวัณที่ไม่สามารถผลิตก๊าซได้ครบ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันตามสัญญาไปแล้ว
โดยแนวทางการเปิดให้ Shipper แข่งขันราคาเพื่อขายเข้าระบบPool นั้น จะเป็นวิธีที่แตกต่างจากการจัดการโควต้าปี64 ที่ไม่มี Shipper รายใดขอนำเข้าเช่นเดียวกัน ซึ่งในช่วงนั้น กกพ.ใช้วิธีแบ่งส่วนให้ปตท.และ กฟผ. เป็นผู้นำเข้าและส่งผ่านต้นทุนไปที่ค่าเอฟที
สำหรับ Shipper รายใหม่ มีอยู่ทั้งหมด 7 ราย ได้แก่
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
- บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด
- บริษัท บี.กริม แอลเอ็นจี จำกัด
- บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก
- บริษัท PTT Global LNG Company Limited หรือ PTTGL
- บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG