คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมหารือกระทรวงพลังงาน จัดสรรโควต้าการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่เหลืออีก 2.4 แสนตัน จากทั้งหมด 4.8 แสนตันในปี 2564 ให้ ปตท.นำเข้าหลังจาก กกพ. อนุมัติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) นำเข้าส่วนแรก 2.4 แสนตัน เดือน ก.ย.-ต.ค. 2564 ไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อความมั่นคงพลังงานของประเทศ
แหล่งข่าวคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดสรรโควต้านำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) 4.8 แสนตันในปี 2564 ว่า หลังจากไม่มีผู้ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) รายใหม่สนใจนำเข้า LNG โควต้า 4.8 แสนตันในปี 2564 ทางกระทรวงพลังงานและ กกพ.จึงพิจารณาอนุมัติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ในฐานะเป็น shipper รายใหม่ นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวแบบราคาตลาดจร ( Spot LNG ) แทน โดยให้นำเข้าได้จำนวน 4 ลำเรือ ปริมาณลำละ 6 หมื่นตัน รวม 2.4 แสนตัน ในช่วง 2 เดือน (ก.ย.-ต.ค.2564) ซึ่ง กฟผ.ได้ดำเนินการนำเข้ามาบางส่วนแล้ว
ทั้งนี้ยังเหลือโควตานำเข้าอีกประมาณ 2.4 แสนตัน ที่จะเปิดให้นำเข้าได้อีกในช่วง 2 เดือน (พ.ย.-ธ.ค.) ที่เหลือของปี 2564 นี้ โดยเบื้องต้นยังไม่มี Shipper เอกชนรายใดสนใจที่จะนำเข้าเช่นเดิม ดังนั้น กกพ.จึงอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงพลังงาน เพื่อปรับหลักเกณฑ์เพิ่มเติมภายใต้นโยบายส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 ซึ่งอาจพิจารณาว่าจะให้ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT ในฐานะ Shipper รายแรกของประเทศที่มีบทบาทดูแลความมั่นคงด้านพลังงาน เป็นผู้นำเข้าแทนได้หรือไม่ อีกทั้งภายใต้กติกาการนำเข้ายังกำหนดให้ ปตท.จะนำเข้า Spot LNG ได้ ก็ต่อเมื่อราคาต้องต่ำกว่าราคาก๊าซฯเฉลี่ยรวม (Pool Gas) เท่านั้น
อย่างไรก็ตามการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซฯระยะที่ 2 ในปี 2564 พบว่า หลักเกณฑ์การนำเข้าในบางส่วน ยังไม่เอื้อให้เกิดความคล่องตัว ทาง กกพ.จึงต้องสั่งการพิเศษเพิ่มเติมจากหลักเกณฑ์ฯ ระยะที่ 2 เพื่อให้เกิดความคล่องตัวขึ้น รวมถึงจะต้องปรับปรุงหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อให้เกิดการแข่งขันนำเข้าของ Shipper เอกชน ในปี 2565
เนื่องจากโดยการนำเข้า LNG ของ Shipper ในปี 2564 นี้ ยังไม่ใช่ลักษณะของ นโยบายการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซฯ ระยะที่ 2 และโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับการส่งเสริมการแข่งขันอย่างแท้จริง ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2564 ที่ต้องการให้ Shipper ที่ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้จัดหา LNG เข้ามาใช้ในโรงไฟฟ้าของตัวเองโดยไม่เกี่ยวกับก๊าซในระบบ Pool Gas หรือ ต้องเป็นผู้รับความเสี่ยงเรื่องความผันผวนของราคา LNG เอง
ซึ่งแนวทางดังกล่าว Shipper แต่ละรายจะต้องไปจัดหา LNG ที่เป็นสัญญาระยะกลาง หรือ ระยะยาวที่จะมีราคาก๊าซเฉลี่ยที่ต่ำกว่า Pool Gas โดยหากกลับมาซื้อก๊าซในระบบ Pool Gas เพื่อเสริมความมั่นคงด้านเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าของตัวเองในบางช่วงเวลา ก็จะต้องซื้อก๊าซในราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นจากราคา Pool Gas ปกติ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ Shipper รายใหม่เอาเปรียบประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า โดยเลือกนำเข้า LNGเฉพาะช่วงที่มีราคาถูกเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์แต่พอ LNG นำเข้าราคาแพง ก็จะกลับมาซื้อก๊าซจากระบบ Pool Gas ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ กพช.ดังกล่าว ทาง กกพ.จะต้องปรับหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติได้จริงในปี 2565 ต่อไป
สำหรับปัจจุบัน ประเทศไทย มี Shipper ที่ได้รับใบอนุญาตจาก กกพ. ให้เป็นผู้จัดหาและค้าส่งก๊าซ LNG ได้ ทั้งสิ้น 8 ราย แต่บริษัท ปตท. ถือเป็น Shipper รายดั้งเดิม ที่ยังไม่สามารถใช้โควตานำเข้า LNG 4.8 แสนตันได้ตามเกณฑ์ที่ กพช.กำหนดไว้ โดยอาจต้องปรับหลักเกณฑ์ใหม่หากจะให้ ปตท.นำเข้า
ส่วนที่เหลืออีก 7 ราย เป็น Shipper รายใหม่ แต่ไม่มีรายใดสนใจนำเข้า ดังนั้น กระทรวงพลังงานและ กกพ.จึงให้ กฟผ.นำเข้าแทนบางส่วน แต่ราคานำเข้าLNG ที่นำมาใช้กับโรงไฟฟ้าจะถูกรวมอยู่ในค่าไฟฟ้าประชาชนด้วย โดย Shipper รายใหม่ 7 ราย ได้แก่
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
- บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด
- บริษัท บี.กริม แอลเอ็นจี จำกัด
- บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก
- บริษัท PTT Global LNG Company Limited หรือ PTTGL
- บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG