คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา สำหรับภาคประชาชนประเภทบ้านอยู่อาศัย พ.ศ. 2564 จำนวน 50 เมกะวัตต์ ในอัตราค่าไฟใหม่ 2.20 บาทต่อหน่วย ระยะเวลาสัญญา 10 ปี แบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 15 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ. ) 35 เมกะวัตต์ โดยให้มีผลตั้งแต่ 4 ก.พ.-30 ธ.ค. 2564
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( EnergyNews Center-ENC) รายงานว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ( สำนักงาน กกพ.) ได้เผยแพร่ประกาศของ กกพ.รับซื้อไฟฟ้า “โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา สำหรับภาคประชาชนประเภทบ้านอยู่อาศัย พ.ศ. 2564 ” หรือโซลาร์ภาคประชาชนแล้ว ให้มีผลตั้งแต่ 4 ก.พ.-30 ธ.ค. 2564
โดยหลักเกณฑ์ผู้เข้าร่วมโครงการที่สำคัญ ประกอบด้วย 1.ต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 คือเฉพาะบ้านอยู่อาศัยกำลังผลิตติดตั้งโซลาร์เซลล์ไม่เกิน 10 กิโลวัตต์
2.เป็นเจ้าของมิเตอร์ที่การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ( กฟน.และ กฟภ.) ได้จ่ายไฟฟ้าให้แล้วและมีชื่อในทะเบียนผู้ใช้ไฟฟ้า
3.ผู้ผ่านการพิจารณาต้องติดต่อการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายตามเวลาที่กำหนดเพื่อเปลี่ยนเครื่องวัดไฟฟ้าเป็นประเภทดิจิทัลและจะต้องลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 30 วัน โดยมีระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 10 ปี ซึ่งจะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ภายในปี 2564 เท่านั้น
สำหรับปริมาณรับซื้อไฟฟ้ากำหนดไว้รวม 50 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 15 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ. ) 35 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าตั้งแต่ 4 ก.พ. 2564 ถึง 30 ธ.ค. 2564
ในส่วนกลุ่มที่ร่วมโครงการโซลาร์ภาคประชาชนที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายตั้งแต่ปี 2562 และปี 2563 จะได้รับการปรับอัตรารับซื้อไฟฟ้าจาก 1.68 บาทต่อหน่วย เป็น 2.20 บาทต่อหน่วย เช่นเดียวกับโครงการปี 2564 นี้ ที่มีผลไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา
การประกาศของ กกพ.ดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมาเพื่อให้การจัดหาไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์ภาคประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเป็นการผลิตเพื่อใช้เองเป็นหลักส่วนที่เหลือจึงจะขายให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายต่อไป