กกพ.ประกาศค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย. 2567 ปรับขึ้นเป็น 4.68 บาทต่อหน่วย รัฐบาลมีเวลาถึงสิ้นปี 2566 หาแนวทางปรับลดราคา

24430
- Advertisment-

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติปรับขึ้นค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย. 2567 เป็น 4.68 บาทต่อหน่วย โดยมาจากค่าไฟฟ้าผันแปรที่ปรับขึ้นเป็น 89.55 สตางค์ต่อหน่วย รวมกับค่าไฟฟ้าฐาน 3.78 บาทต่อหน่วย พร้อมเรียกร้องประชาชนลดการใช้ไฟฟ้าเพื่อประหยัดค่าครองชีพและช่วยประเทศชาติ ทั้งนี้หากรัฐบาลต้องการปรับลดค่าไฟฟ้าจะต้องเสนอ ครม.พิจารณาแนวทางให้ทันภายในสิ้นเดือน ธ.ค. 2566 ต่อไป

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เผยถึงอัตราค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 ว่า ในการประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในวันที่ 29 พ.ย. 2566 ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นเรื่องค่าไฟฟ้าผันแปร ( Ft ) และมีมติเห็นชอบให้ปรับค่า Ft ขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือน ม.ค. – เม.ย. 2567 เท่ากับ 89.55 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 69.07 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

 “การพิจารณาปรับค่า Ft  ในงวดเดือน ม.ค. – เม.ย. 2567 นี้ กกพ. คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้า และขณะเดียวกันต้องไม่กระทบต่อศักยภาพความมั่นคงในการบริการพลังงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ด้วย โดยเป็นการปรับให้สะท้อนต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น และคืนต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ กฟผ. รับภาระไว้บางส่วน เพื่อให้ กฟผ. มีสภาพคล่องในการดำเนินงานและชำระคืนเงินกู้เท่าที่จำเป็นได้”

- Advertisment -

ทั้งนี้ กกพ. ขอเชิญชวนประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าร่วมกันประหยัดการใช้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าได้ง่ายๆ ตามหลัก 5 ป. ได้แก่  ปลด หรือถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อใช้งานเสร็จ  ปิด หรือดับไฟเมื่อเลิกใช้งาน  ปรับ อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ 26 องศาเซลเซียส เปลี่ยน มาใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 ปลูก ต้นไม้เพื่อเป็นร่มเงาลดอุณหภูมิให้กับตัวบ้าน จะสามารถช่วยลดการนำเข้าเชื้อเพลิงราคาแพง ซึ่งจะเป็นการลดภาระค่าครองชีพสำหรับตัวท่านเอง และยังจะเป็นการร่วมแรงร่วมใจกันลดภาระโดยรวมให้กับประเทศชาติอีกทางหนึ่งด้วย

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center- ENC) รายงานว่า ค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 ที่ กกพ. ได้ประกาศไปดังกล่าว มีการนำเสนอฝ่ายนโยบายแล้ว ทั้งนี้หากรัฐบาลจะปรับลดค่าไฟฟ้าก็จะต้องนำแนวทางลดค่าไฟฟ้าเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป โดยยังมีเวลาดำเนินการได้ถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2566 ก่อนที่จะเริ่มใช้ค่าไฟฟ้างวดใหม่ ในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 ต่อไป  

สำหรับค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย ปรับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับงวดปัจจุบัน ในเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2566 ที่ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย ( ซึ่งเป็นราคาที่รัฐบาลออกมาพยุงราคาไว้ จากค่าไฟฟ้าที่แท้จริงที่ 4.45 บาทต่อหน่วย) ทั้งนี้สาเหตุที่ค่าไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นมาจาก ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ประกอบกับต้องจ่ายคืนหนี้ให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่แบกรับภาระค่าไฟฟ้าแทนประชาชนไว้รวม 95,777 ล้านบาท โดยการคิดค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย ทำให้ได้คืนต้นทุนค่าไฟฟ้าให้ กฟผ. 6 งวด ในอัตรางวดละ 15,963 ล้านบาท  

Advertisment