ข่าวประชาสัมพันธ์
โรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา ร่วมกับพนักงาน จัดกิจกรรมโครงการ “มาช่วย … ด้วยรัก” ครั้งที่ 14 รวมพลังเอสโซ่ สู้ภัยโควิด-19 สนับสนุนถุงยังชีพให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ชลบุรี – บริษัท เอสโซ่ฯ และ พนักงานโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ศรีราชา มอบถุงยังชีพให้แก่ชุมชนแหลมฉบัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในกิจกรรม “มาช่วย…ด้วยรัก ครั้งที่ 14” ซึ่งประกอบด้วยข้าวสาร และน้ำดื่ม จำนวน 644 ชุด พร้อมแอลกอฮอล์เจล สำหรับทำความสะอาดมือ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากมีเงินสนับสนุนจากโรงกลั่นฯ จำนวน 200,232 บาทแล้ว ยังมีเงินบริจาคสมทบทุนจากพนักงานอีกจำนวน 43,400 บาท รวมเป็นยอดเงินสำหรับถุงยังชีพทั้งสิ้น 243,632 บาท
นายสุชาติ โพธิ์วัฒนะเสถียร กรรมการและผู้จัดการโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา กล่าวว่า “บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการอยู่ร่วมกันกับชุมชนบริเวณโดยรอบโรงกลั่นฯ อย่างมีความสุข และยั่งยืน จึงได้จัดกิจกรรมมาช่วย…ด้วยรัก ครั้งที่ 14 ขึ้น เพื่อจัดทำถุงยังชีพ ส่งมอบความห่วงใยให้กับชุมชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยทุพพลภาพ และผู้ป่วยติดเตียง อันได้รับผลกระทบในช่วงวิกฤตการณ์ของโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากพนักงาน และครอบครัว ที่ร่วมกันบริจาคสมทบทุน และจัดเตรียมถุงยังชีพในครั้งนี้อีกด้วย”
พร้อมกันนี้ ดร.ทวีศักดิ์ บรรลือสินธุ์ กรรมการบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงจิตสำนึกแห่งการให้ โดยความร่วมมือร่วมใจจากพนักงานและครอบครัว เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชน โดยได้มอบทุนทรัพย์ และ สิ่งของที่จำเป็น พร้อมทั้งผู้ที่มีจิตอาสากว่า 40 คน มาช่วยกันจัดถุงยังชีพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งผ่านกำลังใจ และ ให้เราทุกคนสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ไปด้วยกัน”
กิจกรรมมาช่วยด้วยรักในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อสังคม ที่โรงกลั่นฯ ได้ให้การสนับสนุน และจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดโอกาสให้พนักงาน และครอบครัวที่มีจิตอาสา ได้มาร่วมกันทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ให้ชุมชน ได้แก่ สร้างสนามเด็กเล่นเพื่อการเรียนรู้ ปลูกปะการังเพื่ออนุรักษ์ท้องทะเลไทย และโครงการปลูกป่าและทำความสะอาดป่าชายเลน ชุมชนบ้านแหลมฉบัง เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายการดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน