กระทรวงพลังงาน โดยกฟผ.แจงข้อมูลนำน้ำมันปาล์มดิบมาผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าบางปะกง โดยไม่กระทบค่าไฟฟ้าที่จัดเก็บกับประชาชน แต่ใช้งบประมาณจากส่วนของกระทรวงพาณิชย์ และส่วนของกฟผ.มาช่วยรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 1,354 ล้านบาท พร้อมลงพื้นที่ ชุมพรและสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 7-8 ธันวาคมนี้ให้มั่นใจว่าสามารถช่วยเหลือถึงเกษตรกรชาวสวนปาล์มโดยตรงตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน(Energy News Center –ENC) รายงานว่าฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์องค์การ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงถึงความคืบหน้าการวางแผนและเตรียมการนำน้ำมันปาล์มดิบมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าร่วมกับก๊าซธรรมชาติที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนบางปะกง หน่วยที่ 3 จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 160,000 ตัน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า นาย ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและผู้บริหาร กฟผ. จะลงพื้นที่จังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 7-8 ธันวาคมนี้ เพื่อให้ความมั่นใจว่าการซื้อน้ำมันปาล์มเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้าบางปะกงในครั้งนี้สามารถช่วยเหลือถึงเกษตรกรชาวสวนปาล์มโดยตรงตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี โดยกรมการค้าภายในมีส่วนร่วมดำเนินการในการจัดซื้อ ณ จุดส่งมอบท่าเรือ โรงสกัด ลานเท ไปถึงเกษตรกร
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าว ทาง กฟผ. จะใช้เงินในการซื้อน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 2,880 ล้านบาท ซึ่งเป็นต้นทุนเชื้อเพลิงสูงกว่าค่าไฟฟ้า 1,354 ล้านบาท แต่เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าไฟฟ้าของประชาชน ส่วนต่างดังกล่าวจะได้รับการชดเชยต้นทุนจากกระทรวงพาณิชย์ 525 ล้านบาท และอีก 829 ล้านบาท จะทำความตกลงกับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณให้เป็นรายจ่ายเพื่อสังคม (PSA) ของ กฟผ. ดังนั้น ค่าใช้จ่ายดังกล่าวจึงไม่มีการนำไปคิดรวมกับค่าเอฟทีของค่าไฟฟ้า จึงไม่ส่งผลกระทบต่อราคาค่าไฟฟ้า ไม่เป็นภาระต่อประชาชน