เผยแนวโน้มค่าไฟงวด​ ก.ย.- ธ.ค. 66​ ปรับลดลงได้​ 23-50​ ​สตางค์ต่อหน่วย

1154
- Advertisment-

สำนักงาน กกพ.เผยแนวโน้มค่าไฟฟ้าเอฟที​งวดปลายปี​​ (ก.ย. – ธ.ค. 66) อาจจะปรับลดลงได้​ 23-50​ สตางค์ต่อหน่วย​ จากแนวโน้มราคา​LNG​ ที่ปรับลดลง​และการที่ ปตท.สผ. เร่งผลิตก๊าซอ่าวไทยหลุม G1 ซึ่งมีราคาถูกกว่า​ LNG​ 2 – 3 เท่าได้เพิ่มขึ้น

โดยไม่ต้องรอพรรคการเมืองไหนเป็นรัฐบาล​ แล้วสั่งปรับลดค่าไฟทันที ทาง​ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ออกเอกสารข่าวแจ้งสื่อมวลชนวันนี้​ ( 11​ พ.ค.​ 2566​ )​ ว่า จากสถานการณ์ความผันผวน ของราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) นำเข้าที่ส่งผลต่อค่าเอฟที (Ft) ในช่วงที่ผ่านมา สำนักงาน กกพ. จึงศึกษาแนวโน้มราคาค่าไฟฟ้าที่แปรผันไปตามราคา LNG ของงวดถัดไป โดยกำหนดให้ปัจจัยการผลิตอื่นเป็นตัวแปรคงที่ ซึ่งได้ตัวเลขค่า Ft ดังนี้

  1. ราคา LNG เฉลี่ย 14 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู (MMbtu) จะลดค่า Ft ได้ 30 สตางค์ต่อหน่วย
  2. ราคา LNG เฉลี่ย 15 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู (MMbtu) จะลดค่า Ft ได้ 26 สตางค์ต่อหน่วย
  3. ราคา LNG เฉลี่ย 16 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู (MMbtu) จะลดค่า Ft ได้ 23 สตางค์ต่อหน่วย

ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. ใช้ตัวเลขจากปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยในเวลาปัจจุบัน หาก ปตท.สผ. สามารถผลิตก๊าซในอ่าวไทยได้เพิ่มขึ้นจากหลุม G1 ตามแผน ก็จะทำให้อัตราค่า Ft ลดลงได้มากกว่านี้ โดยอาจลดลงได้ถึง 50 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากราคาก๊าซในอ่าวไทยที่ผลิตได้มีราคาถูกกว่า LNG นำเข้า 2 – 3 เท่าตัว ซึ่งสามารถนำมาลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญได้

- Advertisment -

โดย สำนักงาน กกพ. จะติดตามสถานการณ์ ราคาก๊าซ LNG นำเข้า อย่างใกล้ชิด เนื่องจากราคาก๊าซ LNG ในตลาดโลกที่ปรากฏให้เห็นในวันนี้ จะเป็นต้นทุนการผลิตไฟฟ้าในอีก 45 วันข้างหน้า เพราะกระบวนการสั่งซื้อก๊าซ LNG และขนส่งจากต้นทางมายังคลังก๊าซในประเทศไทยจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 45 วัน

นอกจากนี้ สำนักงาน กกพ.จะดำเนินมาตรการลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าด้านอื่นอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้า เพื่อให้มีไฟฟ้าใช้ได้ตลอดเวลา สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและประชาชน

พร้อมกันนี้​ สำนักงาน กกพ. ยังคงขอความร่วมมือให้ผู้ใช้ไฟฟ้าร่วมกันประหยัดพลังงานอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโครงสร้างค่าไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยของไทยเป็นแบบอัตราก้าวหน้า หากยิ่งใช้ไฟฟ้าจำนวนหน่วยมาก ก็จะถูกเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูงขึ้นและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นหากท่านลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นลงได้นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของตัวท่านเองแล้ว ยังเป็นการลดต้นทุนด้านพลังงานโดยรวมของประเทศด้วย

Advertisment