เผยยอดสมัครร่วมโครงการโซลาร์ภาคประชาชน1 เดือนรวม1,665 รายคิดเป็นปริมาณไฟฟ้า8,310 กิโลวัตต์ ยังต่ำกว่าเป้าหมาย1 แสนกิโลวัตต์ ที่เปิดรับซื้อในปี2562 ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเตรียมจับมือ 2 การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายเปิดเวทีสัมมนาสร้างความเข้าใจโครงการโซลาร์ภาคประชาชนให้กับลูกค้าการไฟฟ้าทั้ง4 ภาค ประเดิมภาคกลางเดือนก.ค. 2562 นี้
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน(Energy News Center-ENC) รายงานว่าโครงการโซลาร์ภาคประชาชนที่เปิดรับสมัครครบ1 เดือน(นับตั้งแต่24 พ.ค. 2562 )ปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯรวม1,665 ราย คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า8,310 กิโลวัตต์(kWp) โดยแบ่งเป็นการสมัครเข้าร่วมโครงการกับทางการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)จำนวน342 ราย กำลังการผลิตไฟฟ้า1,695 กิโลวัตต์และสมัครกับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA)จำนวน1,323 ราย รวมประมาณ6,615 กิโลวัตต์
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานมีเป้าหมายเปิดรับทั้งหมด1 แสนกิโลวัตต์ (100 เมกะวัตต์) ภายในปี2562 ซึ่งปัจจุบันยังคงมีผู้สมัครทยอยสมัครเข้ามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดรับสมัครเมื่อ24 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา ส่วนจะได้ครบตามเป้าหมายหรือไม่นั้นทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ยังไม่สามารถประเมินได้
อย่างไรก็ตามสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สำนักงานกกพ.) มีแผนจะร่วมกับ2 การไฟฟ้าคือ กฟน. และPEA จัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการโซลาร์ภาคประชาชนให้กับลูกค้าของทั้ง2 การไฟฟ้าโดยจะเริ่มจัดที่ภาคกลางในปลายเดือน ก.ค. 2562 นี้ จากนั้นจะจัดอีก3 ภาคได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือภายในปี2562 นี้ต่อไป ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความรู้ความเข้าใจโครงการดังกล่าวให้มากขึ้นแต่จะช่วยให้เกิดการสมัครเข้าร่วมโครงการจนครบ100 เมกะวัตต์ในปี2562 หรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทั้งความพร้อมของประชาชนภาวะเศรษฐกิจประเทศและความรู้ความเข้าใจเป็นต้น
สำหรับโครงการโซลาร์ภาคประชาชนได้เปิดรับสมัครผ่านระบบออนไลน์เท่านั้นโดยจะเปิดรับยื่นความจำนงค์ได้ตั้งแต่8.00 น. ของวันที่24 พ.ค. 2562 เป็นต้นไปและหมดเขตรับลงทะเบียนภายในปี2562 โดยการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายจะทยอยประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการพิจารณาทางเว็บไซต์ของการไฟฟ้ารวมทั้งส่งผลการคัดเลือกให้ผู้สมัครได้รับทราบทางอีเมลที่ได้แจ้งไว้ตั้งแต่เดือนมิ.ย.2562 เป็นต้นไปและลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าต่อไป
ทั้งนี้โครงการ“โซลาร์ภาคประชาชน”ในปี2562 ได้กำหนดเป้าหมายปริมาณรับซื้อรวม100 เมกะวัตต์(1แสนกิโลวัตต์) แบ่งพื้นที่ดำเนินการออกเป็น การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) จำนวน30 เมกะวัตต์ ครอบคลุม3 จังหวัดได้แก่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) จำนวน70 เมกะวัตต์ ครอบคลุม74 จังหวัดที่เหลือ
โดยกำหนดให้ผู้สมัครต้องมีกำลังผลิตติดตั้งครัวเรือนละไม่เกิน10 กิโลวัตต์(kWp) กำหนดอัตราราคารับซื้อไฟฟ้าที่1.68 บาทต่อหน่วยโดยมีระยะเวลารับซื้อไฟฟ้ารวม10 ปี ซึ่งโครงการในปี2562 จะกระจายครอบคลุมประมาณ10,000-20,000 ครัวเรือน