เตรียมเสนอขยับเพดานราคาดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร

993
N4027
- Advertisment-

ชี้ตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรถึงแค่ มี.ค. 65 ตามมติ กบง. จากนั้น สกนช.จะมีการเสนอให้ขยับเพดานราคาใหม่ให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และไม่ให้เป็นภาระการชดเชยราคาที่มากเกินไปของกองทุนน้ำมัน

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) อยู่ระหว่างทบทวนมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.2565 นี้ โดยเห็นว่า การกำหนดเพดานราคาดีเซลไม่เกิน30 บาทต่อลิตรนั้นใช้มานานกว่า 15 ปีแล้ว ซึ่งไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ​ในปัจจุบันและ ทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องแบกรับภาระที่มากเกินไปในการเข้าไปช่วยตรึงราคา

เบื้องต้น สกนช.ได้มีการวิเคราะห์อัตราเพดานราคาใหม่ที่เหมาะสมโดยเปรียบเทียบข้อมูลจากทั้งด้านดัชนีการเติบโตทางเศรษฐกิจ, ผลกระทบต่อราคาอาหารสด และข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง พบว่าเพดานการตรึงราคาดีเซลในอนาคตจะต้องขยับขึ้นสูงกว่า 30 บาทต่อลิตรอย่างแน่นอน

- Advertisment -

อย่างไรก็ตามข้อเสนอให้มีการขยับเพดานราคาดีเซล
จะต้องผ่านการพิจารณาจาก คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.)และคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะมีข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงหากรัฐยังคงเลือกตรึงราคาเอาไว้ที่เพดาน 30 บาทต่อลิตรต่อไป

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center-ENC ) รายงานว่า การตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร เมื่อช่วงปลายปี 2564 ในช่วงที่ราคาน้ำมันโลกทะลุ 80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องชดเชยถึงเดือนละกว่า 4,000 ล้านบาท หรือชดเชยดีเซลประมาณเกือบ 2 บาทต่อลิตร และทำให้กองทุนน้ำมันฯ ติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี

โดยล่าสุด สกนช.ได้ทำตัวเลขสถานะกองทุนน้ำมันฯ ไว้ ณ วันที่ 26 ธ.ค. 2565 พบว่า กองทุนน้ำมันฯ ติดลบถึง 4,480 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่มีในบัญชีน้ำมัน 18,244 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 22,724 ล้านบาท

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบโลก ณ วันที่ 4 ม.ค. 2565 ยังทรงตัวระดับสูงและผันผวน โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อยู่ที่ 76.99 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล,ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ระดับ 80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 77.60 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

Advertisment