เขียนเล่าข่าว​ EP​ ​37​-ยิ่งอุ้มดีเซล​ คนใช้รถมอเตอร์ไซด์​ 22​ ล้านคันที่เติมแก๊สโซฮอล์ยิ่งเดือดร้อน

370
N4027
- Advertisment-

นโยบายการตรึงราคาดีเซลเอาไว้ที่​ไม่เกิน 32​ บา​ทต่อลิตรทำให้กลุ่มผู้ใช้เบนซินและแก๊สโซฮอล์​ โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์​ที่มีอยู่ประมาณ​ 22​ ล้านคันไม่ได้รับความเป็นธรรม​ เพราะต้องเติมน้ำมันที่หน้าปั๊มแพงกว่า​ ทั้งๆที่ราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมันถูกกว่า

ช่วงที่ผ่านมา​​ ราคาน้ำมันดีเซลเคยขยับไปอยู่ที่ราคาไม่เกิน​ 35​ บาทต่อลิตร​ โดยที่รัฐใช้ทั้งมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตลงเป็นการชั่วคราวที่​ 5​ บาทต่อลิตร​ การใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปชดเชย​ จนทำให้กองทุนน้ำมันฯทำสถิติติดลบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่​ 1.3​ แสนล้านบาท​ รวมทั้งมาตรการขอความร่วมมือจากผู้ค้าให้ช่วยคุมค่าการตลาดน้ำมันเอาไว้ไม่เกิน​ 1.40​ บาทต่อลิตร​ ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซินและแก๊ส​โซฮอล์​ซึ่งรวมถึงผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์​ที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกเกือบ​ 22​ ล้านคัน​ ต้องใช้น้ำมันในราคาที่สะท้อนต้นทุนที่เป็นจริง​ แถมบางช่วงยังถูกบวกค่าการตลาดน้ำมันที่สูงเกินจริงด้วย​ เพื่อไปถัวเฉลี่ยกับค่าการตลาดดีเซลที่ถูกกดเอาไว้ต่ำเกินจริง

ทั้งนี้ระดับราคาดีเซลซึ่งอยู่ที่​ 34.94​ บาทต่อลิตรในช่วงที่ผ่านมา​ ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการขนส่งและผู้ผลิตสินค้าได้ใช้เป็นเหตุผลในการปรับขึ้นราคาสินค้าและค่าบริการมาแล้ว

- Advertisment -

โดยในโครงสร้างราคาน้ำมัน​ ณ​ วันที่​ 15​ สิงหาคม​ 2566​ ราคาหน้าโรงกลั่นของดีเซล​ อยู่ที่​ 27.04 บาทต่อลิตร​ และราคาขายปลีกอยู่ที่​31.94 บาทต่อลิตร​ โดยในราคาดังกล่าว​ รวมค่าการตลาดที่​ 2.09 บาทต่อลิตร​ ภาษีสรรพสามิต​ 5.99​ บาทต่อลิตรด้วย​ แต่กองทุนน้ำมันเข้าไปชดเชยราคาอยู่ที่​ 5.93 บาทต่อลิตร​ ซึ่งระดับราคาดีเซลที่ถูกลงกว่าช่วงที่ผ่านมา​ ไม่ได้ทำให้ผู้ประกอบการลดราคาสินค้าและค่าบริการขนส่งลงมาเลย​ ตรงกันข้าม​ยังเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่จะมาเป็นรัฐบาลปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลงอีก

ในส่วนของราคาแก๊สโซฮอล์ 91​ ที่รถมอเตอร์ไซค์​นิยมเลือกเติมนั้น​ ราคาหน้าโรงกลั่นอยู่ที่​ 24.30 บา​ทต่อลิตร​ ซึ่งถูกกว่าดีเซล​ แต่เมื่อเป็นราคาขายปลีกที่หน้าปั๊ม​ กลับอยู่ที่ราคา​ 39.28 บาทต่อลิตร​ ซึ่งแพงกว่าราคาขายปลีกดีเซล​ ถึง​ 7.34 บา​ทต่อลิตร​ โดยมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน​ลิตรละ​ 2.80 บาทต่อลิตร​ ภาษีสรรพสามิต​ 5.85 บาทต่อลิตร​ และค่าการตลาดอีก​ 3.12 บาทต่อลิตร​

จะเห็นได้ว่า​ ในโครงสร้างราคาน้ำมัน​ดังกล่าว​ กลุ่มผู้ใช้รถ​มอเตอร์​ไซค์ที่เติมแก๊สโซฮอล์​ 91​ ไม่ได้รับความเป็นธรรม​ เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ใช้รถบรรทุก​ รถกระบะ​ ที่เติมดีเซล

สำหรับฐานะกองทุนน้ำมัน​เชื้อเพลิง​ ณ​ วันที่​ 6​ สิงหาคม​ 2566​ ติดลบอยู่ที่​ 50,438​ ล้านบาท​​ โดยติดลบในส่วนบัญชีน้ำมัน​ 5,323​ ล้านบาท​และบัญชี​ LPG​ ที่ 45,115​ ล้านบาท

Advertisment