อัพเดทสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบแล้ว 4.2 หมื่นล้าน ยันหลักการทยอยเก็บเงินคนใช้ดีเซลใช้คืนหนี้เงินกู้บวกดอกเบี้ย
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center-ENC ) รายงานถึงสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่ 8 เม.ย. 2565 ยังคงใช้เงินจากกองทุนไปอุดหนุนราคาดีเซลเอาไว้ลิตรละ 8.90 บาทต่อลิตร เพื่อให้ราคาขายปลีกไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยเป็นระดับที่ต่ำกว่าต้นทุนดีเซลหน้าโรงกลั่นซึ่งอยู่ที่ 31.05 บาทต่อลิตร ในขณะที่ผู้ค้าน้ำมันยังคงได้รับค่าการตลาดที่ 2.30 บาทต่อลิตร
โดยกองทุนน้ำมันยังมีภาระในการเข้าไปชดเชยราคา LPG ถึง 19.83 บาทต่อกิโลกรัมแม้ว่าจะมีการปรับขึ้นราคาไปแล้ว 1 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อวันที่ 1 เม.ย.65 ที่ผ่านมาแล้วก็ตาม
การอุดหนุนทั้งดีเซลและ LPG ทำให้สถานะกองทุนติดลบสะสมแล้ว 4.2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามกองทุนน้ำมันได้รับอนุมัติวงเงินจาก ครม.ให้กู้เพื่อเสริมสภาพคล่องได้ รวมประมาณ 4 หมื่นล้านบาท แต่เบื้องต้นมีความจำเป็นต้องใช้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า การตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร จะดำเนินตามนโยบายไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565 นี้ หลังจากนั้นบอร์ดกองทุนจะมีการประชุมและนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) อีกครั้ง ว่าจะมีการขยับราคาดีเซลขึ้นหรือไม่ อย่างไร โดยต้องพิจารณาดูสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกในช่วงนี้ประกอบด้วย อย่างไรก็ตามหากต้องมีการปรับราคาดีเซลให้สูงเกิน 30 บาทต่อลิตรจะเป็นการทยอยปรับขึ้น และต้องมีข้อมูลเหตุผลอ้างอิงที่เพียงพอเสนอให้ฝ่ายนโยบายตัดสินใจ
นายวิศักดิ์ กล่าวว่า การเข้าไปรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซลในช่วงที่ผ่านมาจากวิกฤติเรื่องโควิด-19 และสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน จนทำให้กองทุนน้ำมันติดลบนั้น เพราะราคาน้ำมันผันผวนในระดับสูง เนื่องจากดีเซลเป็นน้ำมันที่มีผลกระทบสูงต่อเศรษฐกิจมากกว่าเบนซิน ซึ่งการอุดหนุนราคายังเป็นไปตามกรอบวงเงินตาม พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงแล้ว ทางบอร์ดกองทุนจะมีการทยอยปรับอัตราส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันในส่วนของดีเซล เพื่อทะยอยใช้หนี้เงินกู้ดังกล่าว จากปัจจุบันที่กลุ่มผู้ใช้เบนซินและแก๊สโซฮอล์เป็นผู้นำส่งเงินเข้ากองทุนลิตรละ 1.02 บาท
ทั้งนี้การตรึงราคาดีเซลและLPG ตามนโยบาย กบง.นั้น ทำให้ผู้ใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ต้องจ่ายเงินเติมน้ำมันที่หน้าปั๊มสูงกว่าต้นทุนจริงมาก ยกตัวอย่างราคาหน้าโรงกลั่นของเบนซิน 95 วันที่ 8 เม.ย.65 อยู่ที่ลิตรละ 26.21 บาท แต่ราคาหน้าปั๊มอยู่ที่ลิตรละ 46.26 บาท หรือมีส่วนต่างถึงลิตรละ 20.05 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ราคาหน้าโรงกลั่นอยู่ที่ลิตรละ 25.78 แต่ราคาหน้าปั๊มอยู่ที่ลิตรละ 38.85 บาทหรือมีส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น 13.07 บาทต่อลิตร