สนพ.เกาะติดสถานการณ์​รา​คาน้ำมันใกล้ชิดหลังราคาตลาดโลก​ขยับขึ้นเร็ว​จากกรณีคลังน้ำมันซาอุฯถูกโจมตี

418
- Advertisment-

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน​(สนพ.) เกาะติดสถานการณ์ราคาน้ำมันใกล้ชิด หลังคลังน้ำมันซาอุฯถูกโจมตี กระทบราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงถึง 70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ด้านสำนักงานกองทุนน้ำมันฯ เตรียมแผนรับวิกฤต พร้อมเรียกประชุม กบน. ฉุกเฉินหากใน 1 สัปดาห์ราคาน้ำมันดิบพุ่งเกิน 5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน​(สนพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์คลังน้ำมันประเทศซาอุดิอาระเบียถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2564 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งขึ้นถึง 70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลว่า ขณะนี้ สนพ.กำลังติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันนี้ เพื่อรายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและปลัดกระทรวงพลังงานได้รับทราบและเตรียมรับมือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามจากการหารือกับบริษัท ปตท.จำกัด​ (มหาชน) พบว่า ผลกระทบต่อราคาน้ำมันจะเกิดขึ้นในระยะสั้น 2-3 วันเท่านั้น เนื่องจากการโจมตีคลังน้ำมันซาอุฯ ในครั้งนี้ไม่โดนแหล่งผลิตน้ำมันโดยตรง ดังนั้นจึงไม่กระทบต่อปริมาณการผลิตน้ำมันของโลกให้หายไป แต่จะมีผลช็อกตลาดน้ำมัน​ ที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขยับขึ้นรวดเร็วมาอยู่ประมาณ 70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

- Advertisment -

ทั้งนี้ในส่วนของประเทศไทย เชื่อว่าจะไม่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมัน เนื่องจากไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปเพียงพอ ซึ่งปัจจุบันการผลิตน้ำมันยังไม่เต็มศักยภาพโรงกลั่น โดยผลิตเพียง80% ของศักยภาพที่มี ดังนั้นหากน้ำมันไม่เพียงพอยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก อย่างไรก็ตามต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในไทยที่อาจได้รับผลกระทบและปรับขึ้นราคาขายปลีกในประเทศใน 1-2 วันนี้ได้

ด้าน​ นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) กล่าวว่า สกนช.ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด โดยหากพบว่าราคาน้ำมันโลกขยับขึ้นเกิน 5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลภายใน 1 สัปดาห์ หรือ ราคาน้ำมันในประเทศปรับสูงขึ้นเกิน 1 บาทภายใน 1 สัปดาห์ สกนช.จะต้องเรียกประชุมฉุกเฉินกับคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ที่จะต้องนำเงินกองทุนฯไปพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับขึ้นรวดเร็วเกินไปจนส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและประชาชน

โดยปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯมีเงินเหลืออยู่ประมาณ 24,000 ล้านบาท แต่ยังมีภาระดูแลราคาก๊าซหุงต้ม​ (LPG) ประมาณ 700 ล้านบาทต่อเดือน และอุดหนุนราคาน้ำมันจากพลังงานทดแทนอีก 653 ล้านบาทต่อเดือน ดังนั้นเชื่อว่ายังมีเงินเพียงพอดูแลราคาน้ำมันในประเทศไม่ให้ผันผวนรวดเร็วเกินไปได้ในระยะสั้นๆ

สำหรับราคาน้ำมันดิบ Brent เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2564 ปรับขึ้นทะลุระดับ 70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 13 เดือน จากเหตุการณ์คลังน้ำมันซาอุฯถูกโจมดี อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบโลกเริ่มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันศุกร์ (5 มี.ค. 2564) ที่ผ่านมา โดยบทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ.ไทยออยล์ รายงานว่า ราคาน้ำมันโลกเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2564 ปรับตัวสูงขึ้น โดยน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับขึ้น 2.26 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 66.09 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ,น้ำมันดิบเบรนท์ ปรับขึ้น 2.62 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 69.36 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบดูไบ ปรับขึ้น 3.42 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 66.58 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

Advertisment