“สนธิรัตน์”ประกาศกลางวงประชุม ฟันทิ้งโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนจ่ายค่าหัวคิว

4066
- Advertisment-

“สนธิรัตน์”ประกาศกลางวงประชุม ฟันทิ้งโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนที่จ่ายค่าหัวคิว  พร้อมสั่งปลดบุคคลใกล้ตัวหากพบหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ย้ำกับผู้ประกอบการอย่าเชื่อใครที่บอกว่าจะช่วยได้   แต่ถ้าอยากได้โครงการต้องกล้าทุ่มให้ชุมชน แจงเป็นโครงการที่คิดตั้งต้นมาเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง

เมื่อช่วงบ่ายวันที่4ก.พ.2563 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินทางมาร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พลังงานจังหวัดภาคอีสานตอนกลาง ประกอบด้วยขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์  ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน และตัวแทนจากวิสาหกิจชุมชนที่สนใจ  ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น

- Advertisment -

โดยนายสนธิรัตน์ กล่าวในที่ประชุมซึ่งเปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง ถึงโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นโครงการของกระทรวงพลังงานที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อเดือน ธ.ค.2562ที่ผ่านมา และอยู่ในระหว่างที่กระทรวงพลังงานจัดทำหลักเกณฑ์รายละเอียด ว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่คนให้ความสนใจทั่วทั้งประเทศ  ซึ่งตัวเขาได้รับรายงานว่ามีคนบางกลุ่มซึ่งอ้างว่าเป็นสายตรงจากรัฐมนตรีพลังงาน เดินสายไปเรียกรับหัวคิว กับผู้ที่อยากจะได้โครงการ โดยบอกจะมีโควต้าแบ่งให้ 50- 100 เมกะวัตต์  จึงบอกประกาศไว้ต่อหน้าผู้ประกอบการและตัวแทนวิสาหกิจชุมชนว่า หากใครถูกขูดรีด เรียกให้จ่ายเงินเพื่อแลกกับการจะได้โครงการให้มาบอกกับเขา  ซึ่งถ้ามีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเป็นคนของเขาจริง  เขาจะสั่งปลดออกจากตำแหน่งทุกคน ไม่เก็บไว้แม้แต่คนเดียว

” เราจะทำบุญแล้วต้องให้บาปมาบังทำไม  ผมตั้งใจจะให้โครงการนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใส เอกชนที่เข้ามาช่วยชาวบ้านจริงควรจะได้ทำโครงการ ให้ประสบความสำเร็จ ถ้าต้องไปแบ่งจ่ายหัวคิวไปแล้ว จะมีปัญญามาดูแลชาวบ้านให้ดีได้อย่างไร เพราะไม่มีกำไร โครงการนี้เจ๊งตั้งแต่ที่มีการจ่ายค่าหัวคิว  ใครจ่ายหัวคิวให้มาบอกผมถ้าโครงการท่านดีจริง ช่วยเหลือชาวบ้านได้จริง ผมจะทำให้ท่านได้โดยไม่ต้องจ่ายแม้แต่บาทเดียว อย่าไปเชื่อใครที่ไปอ้างว่าผ่านเขาแล้วจะได้ เพราะคนพูดยังไม่รู้เลยว่าจะได้ได้อย่างไร ” นายสนธิรัตน์ กล่าวในที่ประชุม

นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า  คนที่รู้เรื่องหลักเกณฑ์ในการอนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนขณะนี้มีเพียงแค่3-4คนคือรัฐมนตรีพลังงาน ปลัดพลังงาน   อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) และ ลูกน้องอธิบดี  โดยใช้เวลาจัดทำหลักเกณฑ์กันมาร่วม2เดือนแล้ว

“ขอร้องผู้ประกอบการให้ช่วยส่งเบาะแสมาให้ผม  ผมจะตรวจสอบทุกเคส ถ้ามีหลักฐานยืนยัน ฟันทิ้งทุกคน  โครงการนี้โครงการบุญ เป็นโอกาสทั้งของชุมชนและผู้ประกอบการที่จะได้เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าซึ่งมันยากมาก อย่าให้โครงการนี้ ซึ่งตั้งต้นมาดี  ความตั้งใจดี ต้องมามัวหมอง เพราะพฤติกรรมของคนแค่บางกลุ่ม ผมขอร้องอย่าเชื่อใครเด็ดขาดว่าให้เงินให้ทองแล้วจะได้ ทุกโครงการในรอบสุดท้ายผมจะตรวจเอง หากพบอะไรไม่ดี มีอะไรงุบงิบกัน โครงการนั้นไม่ได้แน่นอน แล้วจะขึ้นแบล็กลิสต์เอาไว้ ไม่ต้องมายื่นขออีก “นายสนธิรัตน์ กล่าว

เขากล่าวว่า ขอให้ผู้ประกอบการมีความสุจริตใจที่จะทำงานร่วมกับพี่น้องในชุมชน ไม่ต้องเตรียมเงินไปจ่ายใคร แต่ให้เตรียมเงินไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทำชุมชนให้ดี ถ้าใครกล้าให้ชุมชน ก็จะได้ทำโครงการ เพราะที่คิดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อตั้งใจจะเข้าไปช่วยเหลือชุมชนจริงๆ ไม่ได้คิดโครงการขึ้นมาเพื่อจะให้ใครมาทำมาหากิน  และคิดว่าโครงการแบบนี้เป็นโครงการที่ประเทศไทยต้องการ เป็นโครงการที่นายกรัฐมนตรี ชื่นชมยกย่อง ยกให้เป็นธงนำของรัฐบาล ที่ใครอย่าทำให้ความหวังของรัฐบาลเสียไป

ทั้งนี้ในปริมาณการรับซื้อทั้ง700เมกะวัตต์นั้น ถ้าทำแล้วดี ก็สามารถที่จะขยายปริมาณรับซื้อได้อีก แต่ถ้าทำแล้วไม่ดี  ทำไปได้สัก 200-300 เมกะวัตต์ ก็อาจจะเลิกโครงการได้ โดยการอนุมัติโครงการจะใช้ความพิถีพิถันในการพิจารณาและทะยอยอนุมัติ

Advertisment