รัฐมนตรีพลังงาน ประกาศ 3 มาตรการเร่งด่วนลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 ได้แก่ การลดราคาน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม การให้โรงกลั่นเริ่มปรับปรุงมาตรฐานน้ำมันดีเซลจากยูโร4 เป็นยูโร4 พลัส ที่ลดค่ากำมะถันเหลือ 30 PPM และเร่งรณรงค์การใช้น้ำมันดีเซล B20 ในรถกระบะ โดยจะสรุปรายละเอียดร่วมกับโรงกลั่นอีกครั้งภายในสิ้นเดือนก.พ. 2562 นี้
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่13ก.พ.2562ว่า กระทรวงพลังงานได้หารือกับกลุ่มโรงกลั่น 6 รายทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยกระทรวงพลังงานจะออก3มาตการเร่งด่วน ได้แก่ 1.ลดราคาน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียมลงอีกครั้ง เพื่อให้ราคาใกล้เคียงกับดีเซลทั่วไป แม้ก่อนหน้าผู้ค้าน้ำมันได้ลดราคาลงไปแล้ว 1 บาทต่อลิตรก็ตาม ทั้งนี้เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ดีเซลเกรดพิเศษเพิ่มขึ้น และในอนาคตอาจกำหนดเป็นมาตรการด้านราคาระยะยาวต่อไป ซึ่งอาจใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาสนับสนุน แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไป
พร้อมกันนี้จะมีการจัดโซนนิ่งให้เกิดการจำหน่ายดีเซลเกรดพรีเมียมมากขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นPM 2.5 สูง เช่น กรุงเทพฯ ปริมณฑล เชียงใหม่ สงขลา ภูเก็ต เป็นต้น โดยราคาดีเซลเกรดพรีเมียมปัจจุบันอยู่ที่ 28.69 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาดีเซลทั่วไปอยู่ที่ 26.09 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ปัจจุบันมีโรงกลั่นน้ำมัน2 แห่งที่ผลิตน้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร5ได้คือ โรงกลั่นของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี และโรงกลั่นของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งผลิตน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียมได้รวมกัน 500 ล้านลิตรต่อเดือน หรือคิดเป็นการจำหน่ายเพียง 25% ของความต้องการใช้น้ำมันดีเซลทั้งประเทศ ที่ใช้อยู่ประมาณ 2,000 ล้านลิตรต่อเดือน
สำหรับมาตรการที่ 2 คือ ให้ทุกโรงกลั่นกลับไปศึกษาแนวทางการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร4 ที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ให้เป็นมาตรฐานยูโร4 พลัส คือ ลดค่ากำมะถันลงเหลือ 30 PPM จากปัจจุบันที่มีค่ากำมะถัน 50 PPM ซึ่งจะช่วยลดค่าฝุ่น PM2.5 ลง ได้ 10-15% โดยมาตรการนี้อาจทำให้ต้นทุนโรงกลั่นสูงขึ้น แต่กระทรวงพลังงานจะมีมาตรการช่วยเหลือ โดยการปรับลดสำรองน้ำมันดิบของผู้ค้าลงจาก 6% ของปริมาณการจำหน่าย เหลือเพียง 1-2% ของปริมาณการจำหน่าย ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปให้คงอัตราสำรองเท่าเดิมที่ 1% ของการจำหน่าย ทั้งนี้จะมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานออกเป็นประกาศกรมฯต่อไป
และ3 มาตรการเร่งรณรงค์การใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์20% ในทุกลิตร) จากเดิมที่ใช้ได้เฉพาะรถขนาดใหญ่ เช่น รถบรรทุก รถโดยสารสาธารณะ ก็จะหารือกับค่ายรถยนต์เพื่อให้ประกาศว่ารถกระบะรุ่นใด ยี่ห้อใดใช้ B20 ได้บ้าง เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้B20 ผ่านการจำหน่ายที่ปั๊มทั่วไปมากขึ้น โดยราคาB20 ปัจจุบันถูกกว่าดีเซลทั่วไป 5 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตามมาตรการลดราคาB20ให้ต่ำกว่าดีเซลทั่วไป 5 บาทต่อลิตร จะสิ้นสุดในวันที่ 28 ก.พ. 2562 นี้ และจะกลับมาลดราคาต่ำกว่าดีเซลทั่วไปเพียง 3 บาทต่อลิตร แต่ปัจจุบันปัญหาค่าฝุ่นละอองเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข ดังนั้นกระทรวงพลังงานจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะให้ต่ออายุการลดราคาต่ำกว่าดีเซลทั่วไป 5 บาทต่อลิตรต่อหรือไม่ โดยทั้ง 3 มาตรการเร่งด่วน จะมีการสรุปรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้งภายในสิ้นเดือนก.พ. 2562 นี้ต่อไป
นอกจากนี้กระทรวงพลังงาน ยังเตรียมออกประกาศให้น้ำมันดีเซลที่จำหน่ายในประเทศไทยต้องเป็นมาตรฐานยุโรป5 หรือ ยูโร5 ภายในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่คาดว่าจะปรับปรุงโรงกลั่นเสร็จในปี 2567-2568 ในเร็วๆนี้ด้วย