คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) พร้อมดูแลราคาน้ำมันดีเซลช่วงปีใหม่ไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร รอลุ้นของขวัญปีใหม่รัฐบาลมีโอกาสลดราคาดีเซลได้ 50 สตางค์ต่อลิตร และกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ 1 บาทต่อลิตร คาดทิศทางราคาน้ำมันและ LPG ไตรมาสแรกปี 2568 จะปรับสูงขึ้นตามฤดูกาล ยืนยันกองทุนฯ ยังมีศักยภาพดูแลราคาได้ หากดีเซลไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนฐานะเงินกองทุนฯ ปัจจุบันติดลบเหลือ -82,497 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) พร้อมดูแลราคาน้ำมันในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ โดยจะใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ บริหารไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลเกิน 33 บาทต่อลิตร และราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ไม่ให้เกิน 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม
ทั้งนี้ปัจจุบันกองทุนฯ ยังเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้ดีเซลส่งเข้ากองทุนฯ 1.93 บาทต่อลิตร ดังนั้นหากราคาน้ำมันโลกปรับสูงขึ้นช่วงเทศกาลปีใหม่ปลายปี 2567 นี้ ทาง กบน. ก็ยังสามารถบริหารโดยลดการจัดเก็บเงินเพื่อพยุงราคาดีเซลไว้ไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตรได้ ส่วนราคา LPG 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม นั้น ยังอยู่ในช่วงที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลงงาน (กบง.) กำหนดให้ตรึงราคาดังกล่าวไว้จนถึง 31 ธ.ค. 2567 ดังนั้นราคาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามสำหรับของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล ในด้านการลดราคาน้ำมันนั้น ขณะนี้ กบน. ยังไม่ได้รับคำสั่งจากกระทรวงพลังงาน แต่เมื่อพิจารณาจากฐานะกองทุนน้ำมันฯ และการเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันเพื่อส่งเข้ากองทุนฯ ในปัจจุบันแล้ว พบว่า หากรัฐบาลจะปรับลดราคาน้ำมันกลุ่มดีเซลเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ก็สามารถดำเนินการได้ประมาณ 50 สตางค์ต่อลิตร ส่วนกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ก็สามารถลดได้ถึง 1 บาทต่อลิตร แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับนโยบายภาครัฐและปัจจัยอื่นๆ เป็นหลัก ซึ่งทาง กบน. พร้อมสนองนโยบายรัฐบาลทันที
แต่ในส่วนของราคา LPG นั้น เป็นไปได้ยากที่จะปรับลดราคาลง เนื่องจากปัจจุบันกองทุนฯ มีรายรับจาก LPG น้อยมากเพียง 5.96 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่มีรายรับจากน้ำมันอยู่ถึง 268.57 ล้านบาทต่อวัน
สำหรับในส่วนของการดูแลปริมาณการจำหน่ายให้เพียงพอนั้น ทางกรมธุรกิจพลังงานจะประสานกับผู้ค้าน้ำมันดูแลการจำหน่ายน้ำมันให้เพียงพอในช่วงเทศกาลปีใหม่อยู่แล้ว และหากภาครัฐประกาศของขวัญปีใหม่ลดราคาน้ำมัน ทางผู้ค้าน้ำมันก็จะประกาศตรึงราคาน้ำมันในช่วงปีใหม่อย่างเป็นทางการต่อไป
ทั้งนี้ในส่วนของทิศทางราคาน้ำมันและ LPG ช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 เชื่อว่าราคาจะปรับสูงขึ้นตามฤดูกาลที่เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวที่อาจจะครอบคลุมตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค. 2568 รวมทั้งปัจจัยด้านเศรษฐกิจและสงครามในต่างประเทศ โดยราคา LPG อาจขยับจาก 600 เป็น 700 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันได้ อย่างไรก็ตามทาง กบน. จะพยายามบริหารเงินกองทุนฯ เพื่อดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร ยกเว้นหากราคาน้ำมันดีเซลในตลาดสิงคโปร์สูงเกิน 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ก็อาจต้องทบทวนราคาจำหน่ายดีเซลใหม่ ขณะที่ราคา LPG จะต้องรอการพิจารณาจาก กบง. เป็นหลัก
สำหรับสถานะเงินกองทุนฯ ล่าสุด ณ วันที่ 8 ธ.ค. 2567 กองทุนฯ ยังคงติดลบรวม -82,497 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบรวม -35,263 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบรวม -47,234 ล้านบาท
โดยในเดือน พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา กองทุนฯ ได้จ่ายชำระหนี้เงินต้นธนาคารไปแล้ว 130 ล้านบาท ส่วนในเดือน ธ.ค. 2567 จะจ่ายหนี้เงินต้นรวม 278 ล้านบาท ซึ่งกองทุนฯ มีความสามารถในการชำระได้เนื่องจากมีเงินไหลเข้ากองทุนจากน้ำมัน 268.57 ล้านบาทต่อวัน และ LPG อีก 5.96 ล้านบาทต่อวัน
