กบน.อนุมัติเก็บเงินผู้ใช้กลุ่มเบนซินเพิ่ม เลิกอุดหนุน E20 เพื่ออุ้มดีเซลเต็มที่ พร้อมเร่งกู้เงินเติมสภาพคล่องกองทุนก้อนแรก 20,000 ล้านบาทให้ทันเดือน เม.ย.65 นี้ เหตุราคาน้ำมันพุ่งสูงต้องใช้เงินอุดหนุนราคาดีเซลเพิ่มมากขึ้น
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานได้มีมติเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา ปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยราคาน้ำมันดีเซลจาก 2.49 บาทต่อลิตร เป็น 3.09 บาทต่อลิตร เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรตามนโยบาย โดยราคากลุ่มดีเซล ณ วันที่ 25 ม.ค. 2565 (เฉพาะPTT Station และบางจาก) อยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร
โดยการชดเชยราคาดีเซลเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับอัตราจัดเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นโดย เบนซิน95 จัดเก็บในอัตรา 7.18 บาทต่อลิตร จากเดิมที่จัดเก็บอยู่ 6.58 บาทต่อลิตรหรือเพิ่มขึ้น 60 สตางค์ต่อลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์95 E10 และแก๊สโซฮอล์95 E10 เก็บเพิ่มเป็น 1.02 บาท ต่อลิตร จากเดิมเก็บอยู่ที่ 0.62 บาทต่อลิตร หรือ เพิ่มขึ้น 40 สตางค์ต่อลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 จากเดิมที่ได้รับการชดเชยลิตรละ 2.28 บาท ก็ยกเลิกการชดเชย และเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่มเป็น 0.12 บาทต่อลิตร หรือมีส่วนต่าง 2.40 บาทต่อลิตร
ส่วนแก๊สโซฮอล์ E85 นั้นปรับลดอัตราชดเชยลงจากเดิมชดเชยอยู่ 7.13 บาทต่อลิตร เหลือชดเชย 4.53 บาทต่อลิตรหรือ ลดการชดเชยลง 2.60 บาทต่อลิตร
แหล่งข่าวระบุว่า การปรับอัตราส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าวเพื่อให้กองทุนน้ำมันมีรายได้จากฝั่งของผู้ใช้กลุ่มเบนซินมาชดเชยรายจ่ายจากการไปอุดหนุนราคาดีเซลเพิ่มขึ้น ท่ามกลางสถานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิ (23 ม.ค. 2565 ) ติดลบมากถึง 12,355 ล้านบาท (บัญชี LPG ติดลบ 24,163 ล้านบาท บัญชีน้ำมัน ยังเป็นบวกที่ 11,828 ล้านบาท)
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานยังยืนยันที่จะพยุงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร และราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) ที่ 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ต่อไปจนสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 2565 โดยหากราคาน้ำมันโลกปรับขึ้นจนมีผลกระทบต่อราคาจำหน่ายทั้งน้ำมันและ LPG ทาง กบน.ก็จะเรียกประชุมเพื่อเพิ่มเงินเข้าไปชดเชยทันที
สำหรับแนวทางการขอปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่เก็บอยู่ 5-6 บาทต่อลิตรนั้น จะต้องขึ้นกับการพิจารณาของกระทรวงการคลัง
ส่วนการขอสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เพื่อใช้เงินจาก พ.ร.บ.เงินกู้ มาชดเชยราคา LPG แทนกองทุนน้ำมันชั่วคราวนั้น กองทุนฯ ได้ทำเรื่องขอใช้เงินประมาณ 4 เดือน ในวงเงิน 2,000 ล้านบาท แต่ขณะนี้ยังติดปัญหาด้านกฎหมาย จึงยังไม่สามารถใช้เงินดังกล่าวได้
ในส่วนความคืบหน้าในการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องก้อนแรก 20,000 ล้านบาทนั้นทางสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) ได้เร่งขั้นตอนให้เร็วขึ้นจากเดิมที่กำหนดส่งเงินเข้ากองทุนฯในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2565 ให้เป็นภายในเดือน เม.ย. 2565 นี้ เพื่อให้รองรับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น
โดย สกนช. ได้กำหนดให้สถาบันการเงินที่จะปล่อยกู้ ยื่นเสนออัตราดอกเบี้ยมาให้ สกนช. พิจารณาภายใน 31 ม.ค. 2565 นี้ซึ่งล่าสุดมีสถาบันการเงินที่สนใจร่วมปล่อยกู้ประมาณ 10 ราย