รัฐมนตรีพลังงาน เผยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน สมัครใจลาออก 2 คน รวมกับเกษียณอายุงานก่อนหน้านี้แล้ว 1 คน คือนายไกรสีห์ กรรณสูต ทำให้มี กกพ.พ้นวาระตามกฎหมายรวม 3 คน ที่ต้องสรรหาขึ้นมาใหม่ตามกฎหมายให้ครบ 7 คน แต่ยังไม่ระบุว่าจะใช้แนวทางตามพ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 หรือ ตามคำสั่ง คสช.มาตรา44 และขอร้องสื่อมวลชนอย่าคาดเดารายชื่อบุคคลที่จะเข้ามาเป็น กรรมการ กกพ.คนใหม่
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรววพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ได้แจ้งรายชื่อกรรมการที่สมัครใจลาออกมาแล้ว 2 คน ซึ่งเมื่อรวมกับ นายไกรสีห์ กรรณสูต ที่มีอายุครบ 70ปี ที่ได้ลาออกไปแล้ว ทำให้มี กกพ.ที่ออกจากตำแหน่งครบ 3 คน ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติ ประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 ที่กำหนดให้กรรมการต้องลาออกกึ่งหนึ่ง
โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อให้มี กกพ. ครบทั้ง 7 คน ตามเดิม ส่วนคณะกรรมการที่เหลืออีก 4 คนก็จะให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย สำหรับวิธีการสรรหาจะเป็นรูปแบบใด หรือจะประกาศรายชื่อได้เมื่อไหร่นั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย รวมถึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าประธาน กกพ.ยังเป็นนายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ต่อไปหรือไม่
“ขออย่าไปคาดการณ์ คาดหวัง เอ่ยรายชื่อคนนั่นคนนี้ เพราะจะไปมีผลกระทบกับคนที่ถูกเอ่ยชื่อ ซึ่งหากใช่ตามรายชื่อก็แล้วไป แต่หากไม่จริงก็จะเกิดความเสียหาย” นายศิริ กล่าว
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center –ENC ) รายงานว่า ตามกฎหมายประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 นั้น กรรมการ กกพ. จะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี และจะต้องมีการจับสลากออก3 คนเมื่อทำงานไปครบ3ปี แต่กรรมการกกพ.ชุดที่ทำงานอยู่ในปัจจุบัน นั้น ถูกแต่งตั้งมาโดยคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2557 ซึ่งในคำสั่งไม่ได้กำหนดว่า ต้องทำงานอยู่ในวาระกี่ปี และได้ยกเว้นข้อกฎหมายในบางมาตรา ในกฎหมายประกอบกิจการพลังงาน ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหา คณะกรรมการกกพ.
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่คณะกรรมการชุดนี้ ที่แต่งตั้งโดยคำสั่ง คสช. ปฏิบัติหน้าที่ครบ3ปี เมื่อปี2560 ที่ผ่านมานั้น ได้มีการได้ทำหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวการดำรงตำแหน่งของ คณะกรรมการกกพ. แล้วว่าต้องยึดแนวปฎิบัติตาม พ.ร.บ. ประกอบกิจการพลังงานปี 2550 หรือจะยึดตามคำสั่ง คสช. ที่ยกเว้น มาตราที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาเอาไว้ ซึ่งได้คำตอบว่า คณะกรรมการ กกพ. ชุดแรกซึ่งมีนายดิเรก ลาวัณย์ศิริ เป็นประธาน กกพ. ได้มีดำเนินการจับสลากออกไปแล้ว3คนตามกฎหมายแล้ว ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องจับฉลากออกตามกฎหมายอีก และได้นำข้อหารือดังกล่าว รายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในสมัยนั้น คือพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ได้รับทราบ ทำให้สามารถปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งมาจนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา 4 ปี
โดยปัจจุบัน กรรมการ กกพ. มีเหลืออยู่ 6 คน จากเดิมที่มีอยู่ 7คน เนื่องจาก กรรมการกกพ. 1คน ต้องออกตามวาระไปเพราะมีอายุครบ70ปีเมื่อปลายปี2560 ที่ผ่านมา คือนายไกรสีห์ กรรณสูต และยังไม่มีการแต่งตั้งกรรมการ กกพ.คนใหม่เข้ามาแทน ซึ่งทั้ง6คน ประกอบด้วย นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ประธานกกพ. และกรรมการอีก5คนคือ นายวัชระ คุณาวัฒนาวุฒิ, นายวีระพล จิรประดิษฐกุล โฆษกเรกูเลเตอร์ , นางสาววิไลพร ลิ่วเกษมศานต์, นางปัจฉิมา ธนสันติ และนางดวงมณี โกมารทัต ทั้งนี้ในส่วนของ นางดวงมณี และนางสาววิไลพร จะครบวาระการดำรงตำแหน่งตามอายุในปี 2562 นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หากมีกรรมการ2คน ลาออก และยังเหลือกรรมการ กกพ.ทำงานอีก4 คน ก็ยังถือว่าปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ โดยหากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานใช้วิธีการสรรหากรรมการกกพ. อีก3คน เพื่อให้ครบ7คน ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 จะใช้ระยะเวลาประมาณ4 เดือน แต่หากใช้วิธีตามคำสั่งคสช. มาตรา44 นั้น สามารถแต่งตั้งได้ทันที โดยก่อนหน้านี้ คณะกรรมการหารือกันภายในว่า จะมีการยื่นลาออก3คน ตามที่รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม ให้คำแนะนำ แต่ก็จะมีปัญหาว่า คณะกรรมการ กกพ.ที่เหลืออยู่ 3 คน จะไม่สามารถทำงานต่อได้ และจะเป็นการบีบให้รัฐบาลต้องใช้อำนาจ คสช.ตามมาตรา44 เท่านั้น เพื่อไม่ให้การทำงานของ กกพ.มีปัญหา