รัฐมนตรีพลังงานส่งสัญญาณดีเซลเกิน30บาทต่อลิตร หากราคาน้ำมันดิบโลกแตะ90-100เหรียญ

145
- Advertisment-

รัฐมนตรีพลังงานอาจขยับกรอบราคาขายปลีกดีเซลเกิน30บาทต่อลิตร หาก ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกขยับถึง 90-100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล  พร้อมขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันตรึงค่าการตลาดในระดับต่ำไปก่อน  โดยล่าสุดค่าการตลาดลดต่ำถึง 1.12 บาทต่อลิตร ขณะที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงใช้เงินอุดหนุนราคาดีเซลอยู่ที่ 60 สตางต์ต่อลิตร  

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับสื่อมวลชน เมื่อวันที่3ต.ค.2561ว่า กระทรวงพลังงานกำลังติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกขยับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยหากราคาน้ำมันดิบโลกดูไบขยับไปถึง 90-100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในระยะสั้น กระทรวงพลังงานจะต้องกลับมาพิจารณามาตรการใหม่ที่เหมาะสม ซึ่งอาจขยับราคาน้ำมันดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตรก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสถานการณ์ปัจจุบัน

โดยเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบดูไบระหว่างการซื้อขายขยับไปใกล้ 85 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และมาปิดที่ราคา 82.80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยปรับขึ้นจากวันที่ 1 ต.ค. 2561 ถึง 2.14 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในไทยยังอยู่ที่ 29.89 บาทต่อลิตร

- Advertisment -

อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานยืนยันยังมีเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเหลือประมาณ  26,000 ล้านบาท สามารถดูแลราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นปี 2561 หรืออาจถึง 2 เดือนแรกของปี 2562 โดยที่ผ่านมาคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) กำหนดวงเงินอุดหนุน ไม่เกิน 1 บาทต่อลิตร หรือ 6,000 ล้านบาทจนถึงสิ้นปี 2561 ภายใต้ราคาน้ำมันดิบดูไบต้องไม่เกิน 85 เหรียญสหรัฐฯต่อบารต์เรล  เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกดีเซลไม่ให้เกิน30บาทต่อลิตร

โดยสถานการณ์ราคาดีเซลในขณะนี้  กองทุนน้ำมันยังใช้เงินอุดหนุนอยู่ที่ 60 สตางค์ต่อลิตร และกำลังพิจารณาว่าจะต้องใช้เงินในกรอบดังกล่าวอุดหนุนเพิ่มอีกหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันผู้ค้าน้ำมันได้ช่วยพยุงราคาดีเซลจนทำให้ค่าการตลาดลดต่ำเหลือ 1.12 บาทต่อลิตร จากที่ควรได้ 1.70 บาทต่อลิตร ซึ่งอาจจะใช้เงินกองทุนฯไปช่วยพยุงไม่ให้ค่าการตลาดต่ำเกินไป  ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2561 กองทุนน้ำมันฯ เหลือเงินสุทธิ 25,142 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 29,212 และบัญชีLPG ติดลบ 4,071 ล้านบาท

Advertisment