บริษัทร่วมทุนของ ปตท.สผ. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวในโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน เพิ่มเติมอีก 2 ล้านตันต่อปี ส่งผลให้มียอดขายรวม 9.5 ล้านตันต่อปี สะท้อนศักยภาพการรองรับความต้องการใช้พลังงานสะอาดของโลก รวมถึงผลักดันการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายภายในครึ่งแรกปี 2562
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. รายงานว่า บริษัทโมซัมบิก แอลเอ็นจี 1 จำกัด (Mozambique LNG1 Company Pte. Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้การร่วมทุนของ ปตท.สผ. และกลุ่มบริษัทร่วมทุนในโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) กับบริษัท เปอร์ตามินา (Pertamina) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติของอินโดนีเซีย และบริษัท บารัต ก๊าซ รีซอร์สเซส จำกัด (Bharat Gas Resources Ltd.) บริษัทย่อยของบริษัท บารัต ปิโตรเลียม จำกัด (Bharat Petroleum Corporation Ltd. หรือ BPCL) โดยเปอร์ตามินาจะรับซื้อก๊าซ LNG ในปริมาณ 1 ล้านตันต่อปี เป็นระยะเวลา 20 ปี และบารัต ก๊าซ รีซอร์สเซส จะรับซื้อปริมาณ 1 ล้านตันต่อปี เป็นเวลา 15 ปี
นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. กล่าวว่า การลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซ LNG กับทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว นับเป็นความคืบหน้าเพิ่มเติมหลังจากที่ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซ LNG กับ 3 บริษัทไปเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้มีศักยภาพที่จะรองรับความต้องการใช้พลังงานสะอาดในอนาคต
ทั้งนี้ การลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซ LNG เพิ่มเติมครั้งนี้ ส่งผลให้โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน มียอดขายตามสัญญาซื้อขาย LNG ประมาณ 9.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณการซื้อในระดับที่จะช่วยผลักดันให้มีการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ภายในครึ่งแรกของปี 2562 นี้
โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน เป็นหนึ่งในโครงการที่สำคัญตามยุทธศาสตร์ของ ปตท.สผ. ซึ่งให้ความสำคัญกับการลงทุนในพื้นที่ใหม่ๆ ที่มีศักยภาพสูงและมีต้นทุนต่ำ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติ และก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว ซึ่งในระยะแรกประกอบด้วยโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว 2 สายการผลิต (train) กำลังการผลิตรวม 12.88 ล้านตันต่อปี เพื่อรองรับการพัฒนาแหล่งโกลฟินโญ-อาตุม (Golfinho-Atum) ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติแหล่งหนึ่งในโครงการดังกล่าว
