ปตท. มั่นใจในศักยภาพการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการค้า และไม่ขอรับความช่วยเหลือ จาก กองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ หรือ BSF โดยถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 และราคาน้ำมันตกต่ำ แต่กลุ่ม ปตท. ยังมีอันดับความน่าเชื่อถือที่ดี มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง
สืบเนื่องจากกรณีบริษัท Hin Leong Trading Pte Ltd. หรือซิงหลง ประสบปัญหาขาดทุนและขาดสภาพคล่องจากการเก็งกำไรน้ำมันที่ผิดพลาด และอาจส่งผลกระทบกับ ปตท. หรือไม่นั้น
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า ที่ผ่านมา บริษัท ปตท. ค้าสากล จำกัด (PTTT) ที่สิงคโปร์ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) มีการขายน้ำมันแก๊สโซลีน ให้แก่บริษัทซิงหลง ผ่านตลาด Platts ด้วยเงื่อนไขตราสารเครดิต (LC) จากธนาคารชั้นนำ จึงไม่ได้รับผลกระทบต่อความเสี่ยงในการชำระเงินแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตั้งแต่กลางเดือน เมษายน 2563 ทาง PTTT ได้หยุดการทำธุรกรรมกับบริษัทดังกล่าวแล้ว
ปตท. ได้มีการติดตามสภาวะตลาดอย่างใกล้ชิดและมีกระบวนการควบคุมและบริหารจัดการความเสี่ยงในการทำธุรกิจตามแนวปฏิบัติสากล จึงมีความมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการผลกระทบจากสถานการณ์ราคาที่ผันผวนได้
“ในส่วนของผลการดำเนินการของกลุ่ม ปตท. นั้น ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 และราคาน้ำมันตกต่ำ กลุ่ม ปตท. ก็ยังมีอันดับความน่าเชื่อถือที่ดี มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง จึงมั่นใจว่า ปตท. จะสามารถชำระคืนตราสารหนี้ของ ปตท. ซึ่งจะครบกำหนดในปีนี้ จำนวนรวมทั้งสิ้น 27,118 ล้านบาท ได้ โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ หรือ BSF โดยจะเห็นได้จากช่วงต้นเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) สามารถออกหุ้นกู้ได้เต็มจำนวนที่ 15,000 ล้านบาท” นายชาญศิลป์ กล่าวในตอนท้าย