ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์ที่ 10-14 พ.ค. 64 และคาดการณ์สัปดาห์ที่ 17-21 พ.ค. 64 โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
· ความต้องการใช้น้ำมันยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (Energy Information Administration: EIA) คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2564 อยู่ที่ 97.69 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.42 ล้านบาร์เรลต่อวัน และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) คาดว่าจะอยู่ที่ 96.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.95 ล้านบาร์เรลต่อวัน
· สำนักงานควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐฯ ออกคำแนะนำใหม่ เรื่องการปฏิบัติตัวในภาวะการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยผ่อนปรนมาตรการ อนุญาตให้ประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถถอดหน้ากากขณะอยู่กลางแจ้งได้
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
· การระบาดของ COVID-19 ในอินเดียรุนแรงขึ้น โดยมีผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดถึง 414,188 ราย วันที่ 6 พ.ค. 64 ผู้ป่วยสะสม 24.6 ล้านราย เสียชีวิต 270,284 ราย อย่างไรก็ดี S&P Global Ratings ประมาณการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) เติบโตที่ 9.8% ต่อปี หากการระบาดรุนแรงระดับปานกลาง และเติบโตที่ 8.2% ต่อปี หากการระบาดรุนแรงที่สุด
แนวโน้มราคาน้ำมัน
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง $65-$69/BBL ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มถูกกดดันจากความกังวลว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในอินเดีย อย่างไรก็ตามธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุจะคงนโบบายการเงินแบบผ่อนปรนต่อไปแม้อัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย.64 อยู่ที่ 4.6% ต่อปี ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ 2% ต่อปี ให้ติดตามท่าทีของประชาคมโลกต่อกรณีอิสราเอลโจมตีชาวปาเลสไตน์ ที่สร้างความตึงเครียดในตะวันออกกลาง