นางพัชรินทร์ รพีพรพงศ์ รองผู้ว่าการการเงินและบัญชี (CFO) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ประกาศผลการทบทวนการจัดอันดับเครดิตของ กฟผ. ประจำปี 2567 คงที่ระดับ “AAA” ซึ่งเป็นระดับดีที่สุด ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตอยู่ที่ระดับ “Stable” หรือ คงที่ การประเมินอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงบทบาทของ กฟผ. ในฐานะรัฐวิสาหกิจที่มีบทบาทสำคัญในการจัดหาพลังงานไฟฟ้าให้แก่ประเทศ รวมถึงมีสถานะทางการเงินและสภาพคล่องที่ฟื้นตัวดีขึ้น
“อันดับเครดิตองค์กร” เป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในพันธบัตรของ กฟผ. สร้างความเชื่อมั่นทางด้านเครดิตของ กฟผ. ให้แก่คู่ค้า (Counterparty Credit Risk) แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้ รวมถึงความมั่นคงทางการเงินขององค์กร แม้อุตสาหกรรมไฟฟ้าของประเทศจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center – ENC ) รายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา กฟผ.มีต้นทุนคงค้างที่เกิดขึ้นจริงจากการแบกรับภาระค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ “ค่าเอฟที” แทนประชาชนไปก่อน ซึ่งเกิดขึ้นสูงสุดที่ 150,268 ล้านบาทในงวด เอฟที เดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 ก่อนที่จะได้รับการทยอยจ่ายคืนจนลดลงมาเหลือสะสม 98,495 ล้านบาท ณ เดือน เมษายน 2567 หรือเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้าที่จะต้องทยอยจ่ายคืนจำนวน 163.39 สตางค์ต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลมีแนวทางที่จะตรึงค่าไฟฟ้าเอฟที เอาไว้ที่ระดับ 4.18 บาทต่อหน่วยเท่าเดิม สำหรับค่าไฟงวด เดือนกันยายน-ธันวาคม 2567 กฟผ.ก็จะไม่ได้รับการทยอยคืนภาระต้นทุนคงค้างดังกล่าว โดยจะยกยอดไปทยอยจ่ายคืนในงวดถัดไปแทน
